วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เจ้าคุณเบอร์ลิน กางพระวินัย ถกเรื่องอาบัติ กับ พุทธอิสระ : สร้างภูมิปัญญาแก่ชาวพุทธ.

เจ้าคุณเบอร์ลิน กางพระวินัย ถกเรื่องอาบัติ กับ พุทธอิสระ : 

สร้างภูมิปัญญาแก่ชาวพุทธ.


..........
วันนี้ ผมจะเอาพระวินัย เอาศีลของพระสงฆ์ ที่มีถึง 227 ข้อ
ที่พระรูปไหนทำผิดแล้ว เรียกว่า
"ต้องอาบัติ"
มานำเสนอเพื่อเสริมภูมิปัญญากันครับ
โดยจะขอหยิบเอาเฉพาะในส่วนที่สังคมสนใจ และเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในปัจจุบันมาพูดถึง.
......
ยืนยันก่อนครับว่า ทั้งปวงนี้เป็นการแนะนำอบรมชี้แนะภายใต้ในหน้าที่พุทธสาวก ของ
"พระราชาคณะ "ดังว่า..
"ขอพระคุณ จงรับธุระพระพุทธศาสนา เป็นภาระสั่งสอน และช่วยระงับอธิกรณ์"
โดยไม่มีเจตนาจะไป "ปรับอาบัติใคร ๆ ทั้งสิ้น"
ชัดเจนนะครับ
จะได้ไม่มาปรับอาบัติผม
หาว่าไปบอกอาบัติพระแก่อนุปสัมบัน หรือมาหาเรื่องใส่ร้ายผมอีก.
..............
- ผมเห็นว่า ช่วงนี้ ชาวพุทธตื่นตัวกันมาก เพื่อร่วมป้องภัยพระศาสนา น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะ ที่จะได้เริ่มเอาของแท้ ๆ ของจริง ๆ ของพระพุทธบัญญัติ ที่เรียกว่า
"พระธรรมวินัย"
มาพูดกัน มาทำความเข้าใจกันสักที
"พวกบรรดาของเก้ ของแหกตาจะได้หมดเวลาเอามาอ้างหากิน สร้างความเสื่อมเสียต่อพระศาสนากันสักที".
มติ มส. ล่าสุด ผลักลงหลุมไปแล้ว
บทความเรื่อง "อาบัติ" ของผมครั้งนี้
ก็น่าเป็นดินกลบทับฝังไปเลย
จะได้หมดเรื่อง
จะได้ไม่ไปเห่าหอนหนวกหูชาวบ้านเค้าอีก.
.......
- เบื้องต้นตามที่จั่วหัวข้อไว้นั่น
อยากฝากจะบอกพุทธอิสระไปทางนี้ หากท่านมาอ่านโพสต์ผมฉบับนี้ ว่า ..
วันนี้ เรามาจัดเป็นวันแห่งความรู้ วันแห่งความจริง
"เรามาถกวินัยพระ"
เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ชาวบ้านกันสักวันดีมัยครับ.
......
- ขอบอกก่อนว่า
วันนี้ผมมาดีนะครับ
มาแบบมิตร
มาในฐานะพระภิกษุในพุทธศาสนาเดียวกัน.
- ส่วนภูมิธรรมนั้น มันเป็นของอยู่ภายในใจ เป็นนามธรรม
อย่าเอามากล่าวอ้างกัน ให้เหม็นขี้ฟันเลยครับ
ผมไม่มีอะไรหรอกทจำพวกคุณวิเศษวิเสโสอะไรน่ะ
ผมมีแต่ใจครับ หัวใจที่บูชาถูกผิดเท่านั้น และไม่คิดร้ายต่อใครด้วย ต่อหน่อยว่า
"ถ้าถูกก็ไม่ถอยเหมือนกันครับ".
......
- ผมว่า ณ วันนี้ ชาวพุทธกำลังห่วงใยในกิจการพระศาสนา
"เราในฐานะพุทธสาวก"
เปิดใจให้กว้าง ๆ แฟร์ ๆ หน่อย
อย่าทำเป็นคนแก่ขี้โมโหบ่อย ๆอะไรนิดหน่อย ก็ขู่จะฟ้อง ขู่จะร้องเรียนตะพึด
แบบนั่นไร้ประโยชน์ครับ ชาวบ้านเขาระอา และเดือดร้อนเปล่าๆ
มาร่วมกันเปิดปัญญาให้ชาวบ้านที่เรากินข้าวเขาทุกวัน เอาบารมีกันดีกว่านะครับ
เขาจะได้มีภูมิด้านนี้กับตัวเองป้องกันตนได้
ไม่ต้องมาโดนพระกะหล่อนแถกแถ แหกตาง่าย ๆ อย่างทุกวันนี้
ได้บุญเยอะเลยครับแบบนี้.
.......
- แล้วถ้าหากมีการยกตัวอย่าง เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ หากมีชื่อพุทธอิสระ หรือมีเรื่องพาดพิงไปบ้างนั้น
"ก็เพียงแค่ตัวอย่างทั้งสิ้น"
ไม่ได้เจตนาไปปรักปรำใคร ๆ ทั้งสิ้น
หากไม่สบายใจ ก็ให้ถือว่าเป็นวิทยาทานนะครับ
- แล้วก็อย่าไปโยงมั่วให้ชาวบ้านงงว่า
"เป็นเจ้าคุณ ไม่เป็นเจ้าคุณ"
นั่นมันเริ่มส่อเจตนาไม่ดีกับคนฟังแล้วครับ.
.......
- วันนี้ ผมจะมาชวนคุยชวนถกในขณะที่คุณขู่จะฟ้องทุกวันนี้แหละ
ส่วนเรื่องพระวินัยนี่ ก็อย่าคิดนำไปร้อง ปปช. หรือ DSI อีกนะครับ
เขามึนเพราะคุณกันไปหมดแล้วตอนนี้ ฮาอีกนิด.
.....
- เชิญชาวพุทธทุกท่าน ตามมาเอาความรู้กันครับ
เป็นความรู้ที่หาไม่ได้จาก DSI แน่นอน (ขอเฉี่ยวสักหน่อย).
......
- วันนี้ ผมมีเวลา จึงเผอิญไปเปิดดูเฟสต์ ท่านพุทธอิสระ วัดอ้อน้อย กล่าวพาดพิงถึงผมว่า
ผมจะไปปรับอาบัติ DSI ซึ่งเป็นฆารวาส พร้อมรำพันว่า บวชมา 40 ปี เพิ่งรู้ว่ามีงี้ด้วย
"เลอะนะครับแบบนี้"
ทั้งขู่ว่า เสร็จจากฟ้องธัมมชโย ก็จะเป็นผมเป็นรายต่อไป
ตรงนี้ขอแก้สั้น ๆ ว่า
- คุณไปอ่านตรงไหนครับ จึงเข้าใจอย่างนั้น
ผมว่าผมเขียนเข้าใจง่ายที่สุดแล้วนา
เห็นชาวบ้านชาวเมืองเขาเข้าใจแจ่มแจ้งทุกคนนี่ครับ
ทำไมคุณจึงเข้าใจไปงั้นละครับ.
- และไอ้ที่คุณบอกว่า
บวชมา 40 ปี นั้น โกหกตาใสอีกแล้วนะครับ
ไปนั่งตรองดู บวชครั้งสุดท้ายนี่ ถึงหรือยัง 40 ปีน่ะ
แต่ถ้าจะเฉไฉไปว่า
"ข้านับชาติที่แล้วด้วยโว้ย"
ก็ตามสบายครับหลวงปู่
เอาเป็นว่า ถ้าร่วมพระพุทธเจ้าองค์เดียวกันละก็
"หากพุทธอิสระเจอผม ท่านต้องกราบผมก็แล้วกัน เพราะผมมีพรรษามากกว่า"
นอกจากท่านจะมีพุทธเจ้าต่างหากอีกองค์เท่านั่นแหละ
ก็เรื่องของคุณไป.
........
- เข้าเรื่องสาระ "อาบัติ" พระแบบง่าย ๆ สไตร์เจ้าคุณเบอร์ลิน
- วันก่อนผมพูดเรื่องอาบัติในเฟรส
มีคนปัญญาอ่อน แต่ใจไม่ดีคิดหาเรื่องใส่ร้ายผม ไปตีความว่า
เจ้าคุณเบอร์ลิน จะไปปรับอาบัติ DSI
โอ้ย โลกน้อ ทำไมทำให้คนมันเพี้ยนได้ขนาดนี้.
- มาเลยครับ ผมจะแจงให้ฟังที่ขั้นที่ละตอน พร้อมตัวอย่าง และหยิบยกพระวินัยมาประกอบให้จะจะเลย.
จะขอให้สิทธิที่ถูกพาดพิงมาตรงนี้เลย.
....
- วันนี้ถึงเวลาที่ผม นึกอยากชี้ให้ชาวพุทธทราบรายละเอียด
ในเรื่องอาบัติพระสักที เพื่อจะได้เป็นความรู้ ต่อไปจะได้ไม่ให้ถูกพระบ้าการเมืองหลอกตุ๋นอีก.
.........
สาระ
- ขอขยายความเหตุเกิดจากอาบัติเล็ก ชักเข้าหาอาบัติหนัก
- นี่เป็นการชี้แนะ ไม่ใช่เป็นการไปปรับอาบัติ
เดี่ยวเกิดมีใครทะลึ่งกล่าวหาว่า
เจ้าคุณเบอร์ลิน ไปบอกอาบัติชั่วหยาบของภิกษุอื่นแก่อนุปสัมบัน (ผู้ที่ไม่ใช่พระ)
พาลจะไปร้อง DSI ให้มาปรับอาบัติเจ้าคุณเบอร์ลิน จะลำบากต้องแสดงคืนอาบัติก็จะยุ่ง.
- แต่การพูดเรื่องอาบัตินั้น มีความจำเป็นต้องยกตัวอย่างประกอบ เพื่อจะได้เห็นภาพชัดเจน และเข้าใจได้ง่ายขึ้น เพราะเรื่องอาบัติเข้าใจยาก.
- ไม่งั้นชาวพุทธก็จะถูกตบตาจากพระบ้าการเมืองอยู่เรื่อยหรอ
- ทั้งคณะสงฆ์เอง ก็ถูกหลอกตีกินอยู่เรื่อยไป.
.........
ค่อย ๆ อ่านนะครับ
กรณีแอบอ้างพระอักษรเกี่ยวข้องกับอาบัติ ดังนี้...
1. กรณีห้ามรื้อฟื้นอธิกรณ์ขึ้นมาใหม่นั้น
- ตามพระธรรมวินัย หากการกสงฆ์ (อ่านว่า กา-รก-สงฆ์) หมายถึง พระภิกษุที่ได้รับมอบหมายจากสงฆ์ ให้มีหน้าที่ในกิจนั้นๆ.
- ได้วินิจฉัยอธิกรณ์ไปแล้ว เสร็จสิ้นแล้ว และสงฆ์ก็ยอมรับในคำวินิจฉัยนั้น.
- พระวินัยแจ้งชัดว่า ห้ามรื้อฟื้นอธิกรณ์นั้นขึ้นมาใหม่.
- ผู้ที่ไม่มีหน้าที่ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือไม่ได้เป็นผู้ฟ้องเดิม.
- ภิกษุผู้ ไปรื้อฟื้นอธิกรณ์ขึ้นมาใหม่ ด้วยไม่ถูกใจตน ไม่ถูกใจพวกตน หรือด้วยขัดเคืองใจ เป็นอาบัติปาจิตตีย์.
- กรณีตัวอย่าง เช่น..
พุทธอิสระ รื้อฟื้นอธิกรณ์ที่การกสงฆ์ทำเสร็จแล้วตามธรรม ตามวินัย ต้องเป็นอาบัติ "ปาจิตตีย์".
....
2. ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่า
- เรื่องที่ทำนั้นเป็นอาบัติปาจิตตีย์
- แต่พุทธอิสระ ก็ยังขืนทำซ้ำเรื่องเดิมๆ
- ใครห้ามก็ไม่เชื่อฟัง เป็นผู้ดื้อด้าน ว่ายากสอนยาก แสดงอาการอาฆาตมาตรร้าย สร้างความเอือมระอาแก่หมู่คณะ
ชักเข้าหาอาบัติหนักเป็นสังฆาทิเสส เพราะเป็นคน "ว่ายากสอนยาก".
- แม้สงฆ์เตือนครั้งที่ 1 ไม่เชื่อฟัง เป็น "อาบัติทุกฏ"
- เตือนครั้งที่ 2 ยังไม่เชื่อฟัง
ก็ให้ปรับเพิ่มขึ้นไปอีก เป็น "อาบัติถุลลัจจัย"
โทษฐานดื้อด้าน มีพฤติกรรมชั่วหยาบ.
- แม้เตือนครั้งที่ 3 ก็จะเป็นอาบัติหนัก ถึงขั้นสังฆาทิเสส
ต้องอาศัยความอนุเคราะห์จากสงฆ์จึงจะออกจากอาบัติสังฆาทิเสสข้อนี้ได้.
.......
- ข้อควรจดจำ คือ พุทธอิสระทำหยาบช้า(ถุลลัจจัย) ต่อสงฆ์ไว้มากมายขนาดนี้ แล้วไซ้
สงฆ์คณะไหนเลยจะอนุเคราะห์ให้พุทธอิสระออกจากอาบัติได้
- ระวังนะครับ ลักษณะเช่นนี้สุดท้ายก็จะตายไปพร้อมกับอาบัติหนัก เข้าถึงทุคติวินิบาต เป็นที่สุด.
........
2. กรณีตัวอย่างการพฤติชั่วหยาบ
- พุทธอิสระนั้น มีพฤติกรรมทำลายพระวินัยเป็นอาจิณณ์
เพราะทำผิดซ้ำ ๆ ในเรื่องเดิมๆ กรณีใช้พระลิขิตรื้อฟื้นอธิกรณ์ คือ
2.1 ไปยื่นสำนักนายก เป็นปาจิตตีย์ ๑ ข้อ.
2.2 ไปยื่นดีเอสไอ เป็นปาจิตตีย์ อีก ๑ ข้อ.
2.3 ไปยื่น ปปช เป็นปาจิตตีย์ อีก ๑ ข้อ
2.4 ไปยื่นรัฐสภา เป็นปาจิตตีย์ อีก ๑ ข้อ
2.5 ทุกครั้งที่ไปยืนแถลงข่าวในที่ต่างๆ กี่ ๆ ครั้ง เป็นอาบัติทุกๆ ครั้งที่แถลง.
......
3. การกระทำดังกล่าว ชื่อว่า
ตะเกียกตะกายทำลายสงฆ์
ในเมื่อสงฆ์มีความสามัคคีพร้อมเพรียงกันอยู่ดีแล้ว
ยังตะเกียกตะกายเพียรพยายามทำลายสงฆ์ให้แตกสามัคคี นี่หนักครับ เพราะเป็นอาบัติ "สังฆาทิเสส".
....
4 . ส่วนกรรม อันเป็น "อนันตริยกรรรม"
สำหรับผู้ที่เข้าพวก เข้าขบวนการ พากันตะเกียกตะกายทำลายสงฆ์
ก็ไม่พ้นอนันตริยกรรม เช่นเดียวกัน.
- ขึ้นชื่อว่า อนันตริยกรรมเป็นกรรมหนักนัก
แม้แผ่นดินก็ไม่อาจทรงเขาไว้ได้.
..........
5. สรูปอาบัติ "พุทธอิสระ"
- ต้องอาบัติ ที่ชื่อว่า ปาจิตตีย์ เพราะเป็นผู้ไม่หลงเหลือความดีอยู่เลย.
- ต้องอาบัติที่ชื่อว่า "ถุลลัจจัย" เพราะมีประพฤติกรรมชั่วหยาบ.
- ต้องอาบัติที่ชื่อว่า "สังฆาทิเสส"
เพราะเป็นผู้ว่ายากสอนยาก และเพราะเพียรพยายามตะเกียกตะกายทำลายสงฆ์
ข้อนี้จะต้องอาศัยความอนุเคราะห์จากสงฆ์จึงจะออกจากอาบัตินี้ได้.
.........
6. ส่วนอาบัติกรณี กล่าวยืนยันพระลิขิตนั้น
- ขอเตือนว่า ใคร ๆ จงอย่าไปเที่ยวยืนยันโดยเด็ดขาดเชียวนะว่า
เป็น "ของจริง"
เพราะนี่ จะทำให้ "ผู้โจทก์"
เป็นอาบัติ "สังฆาทิเสส" โดยทันที
โดยไม่มีใครต้องปรับอาบัติ.
ข้อสำคัญนี้ หากไม่เชื่อก็ขอให้ DSI
ลองไปถามพุทธอิสระดูว่า
"เป็นจริงตามที่เจ้าคุณเบอร์ลินว่าหรือไม่".
..............
ทั้งหมดนี้ ที่ผมอุตส่าห์เรียบเรียงแจงมานี้
เจตนาผมเพื่อสร้างความกระจ่างแก่ผู้เกี่ยวข้องให้ทราบด้วยกุศลเจตนา
ตัวอย่างที่อ้างชื่อว่า "พุทธอิสระ" ในโพสต์นี้
ให้ถือว่าเป็นแค่สมมติ หรือแค่ตัวอย่างนะครับ
เพราะคนเลวขนาดนี้ ผมก็ไม่เชื่อว่าจะมีอยู่ในโลกปัจจุบันนี้หรอกครับ
แล้วหากผู้รู้ท่านใด พิจารณาแล้ว เห็นเจ้าคุณเบอร์ลิน พูดผิด อ้างผิด
ขอเชิญโต้ตอบมา ด้วยกุศลเจตนา และปัญญาชนได้
"อันธพาล พวกอวดรู้ ไม่ต้อง".
.............
- เป็นไงครับ วันนี้ได้ความรู้กันไปเยอะเลย
ถือว่าพลิกวิกฤตมาเป็นโอกาสเสริมภูมิปัญญากันครับ เข้าทำนอง
"รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม"
นี่แหละครับ หน้าที่ของพระสงฆ์สาวกในพระพุทธศาสนาครับ
- คุณพุทธอิสระ ที่อ้อน้อย ซึ่งท่านบอกว่า "ไม่ให้ราคาผม" นั้น
จะไม่สนใจ ก็เรื่องของท่านครับ
- แต่คนเรานั้น หากตนเองก็ยังลายไปทั้งตัว
ความชอบธรรมที่จะตรวจสอบคนอื่น มันก็หมดสิ้นไปแล้วครับ.
.......
- ใครที่ยังไม่รู้ก็จะได้ตาสว่าง
ต่อจากนี้ไปก็จะได้ ไม่ต้องโดนพระเก้แหกตาหลอกกินไปวัน ๆ
อ้างโน่นอ้างนี่ อ้างถึงขนาดจะกู้หนี้กู้ชาติ กู้ศาสนาไปโน้น มั่วสิ้นดี
ประเภทโปรดไม่ขึ้น รู้ทั้งรู้ แต่ยังดัน ฝืนทำนี่ น่าประณามนะครับ
ส่วนประเภทสุดท้าย ฝืนทำจนเป็นน้องพ่อ คือ "เป็นอาจิณ" นี่
ผมว่าน่าจะไม่ต้องเรียกพระแล้วนะครับ.
...
แต่ขอเตือนก่อนจบว่า
การถกพระธรรมวินัยนี่
ขออย่าคิดเพี้ยนเที่ยวไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่ไหนอีกนะครับ
เพราะเดียวจะพาหน่วยงานลูกศิษย์ตนเองที่ชอบทะเล่อทะล่าขยับเสื้อสูทออกมารับกันเรื่อยนี่
จะมึนหนักกว่าเก่า เพราะแผนการณ์เก่า ๆ
ก็ยังติดคอคายไม่ออกอยู่ตอนนี้
โดน มติ มส. เมื่อวานนี้ไปชะหนัก
ถ้าแบบนี้ไอ้ลูลู บอก "โสน้ำหน้า".
โชคดีมีชัยทุกท่านครับ.
เจ้าคุณเบอร์ลิน
11.02.2016













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น