วันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

แฉมีเจ้าคุณระดับบิ๊ก หวังส้มหล่น ยืนบงการเบื้องหลัง : ชักใยสตรีถือหอก : คล้ายซ่อนเงื่อนแต่เริ่มร้อนตัว.

แฉมีเจ้าคุณระดับบิ๊ก หวังส้มหล่น ยืนบงการเบื้องหลัง : ชักใยสตรีถือหอก : คล้ายซ่อนเงื่อนแต่เริ่มร้อนตัว.

 

 .......

"ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชไม่มีการแย่งชิง
แต่ที่มีปัญหากัน
เพราะลูกศิษย์ ที่อยาก
ให้ ...อาจารย์ตัวเอง.. ได้ดี"
.....
- คำที่ผมยกขึ้นมาเบื้องต้น คือ คำพูดของ...
ดร. วิษณุ เครืองาม
ผู้เป็นรองนายกที่คอยดูแลและกรองงานทั้งหมดก่อนถึงมือนายกบิ๊กตู่.
- และผมเคยบอกว่า
ถือว่าเป็นฆารวาสที่รู้ปัญหาสงฆ์ดีที่สุดคนหนึ่งในปัจจุบัน.
- ดร. วิษณุ ได้พูดไว้ตั้งแต่ราวต้นเดือน มกราคม 2559 ไปแล้ว.
- ในครั้งนั้นสังคมไม่ได้ฉุกคิดนัก และ ดร. วิษณุ ก็พูดขะยักเดียว.
- อีกขั้นที่สูงขึ้นไปอีกแกเลือกที่จะไม่พูดถึง.
- จริง ๆ ดร. วิษณุ แกก็รู้แจ้งว่า ...
นอกเหนือชั้นลูกศิษย์ไปอีกชั้น.
- มันยังมีตัวละครเบิ้มใหญ่ที่นั่งทะมึนบนหัวทุกคนอยู่.
- ที่คอยวางแผนเล่นเกมชั่ว จ่ายเกมให้ลูกศิษย์ตน
นำไปเดินอีกหลายทาง เรียกว่า มีแผนสำรองหลายชั้น.
- การใช้ตัวละครก็ทั้งหญิงและชาย ทั้งพระและคน แบ่งบทกันเล่น.
- แต่เลือกที่ให้ความเป็นพิเศษกับหญิงหรือสตรี
มากกว่าตัวเล่นอื่น และจับจริตหญิงได้ว่า
"บ้ายอ บ้ายศ เลือกศรัทธาพระตนแบบมัวเมา".
.....
- แต่ทั้งหมดล้วนมีเป้าหมายเดียว เป้าหมายอะไร คงแจ้งกันแล้ว.
- แต่ ดร. วิษณุ แกก็เลือกที่จะไม่พูดต่อ.
....
- ตรงนี้ผมจะขอบังอาจเตือนไปยัง เจ้าคุณ "รุ่นพ่อ" ว่า....
"อันมะม่วงนั้น จะหวานหอม ก็ต้องปล่อยให้สุกตามธรรมชาติครับ
- ขืนไปเร่งไปบ่มแก๊ส สวยงาม ก็แต่ภายนอกเท่านั้นแหละครับ.
- อันคนเรานั้น ต่อให้ยศสูง มีตำแหน่งมาก หากใจเน่าแล้ว
ก็ลงอบาย ตั้งแต่ยัง ไม่มรณภาพ นะครับผม".
.....
- ย้อนความหลังสักนิด
เพื่อประติดประต่อภาพ จะได้เห็นภาพชัด และไล่เท่าเกมชั่วของคนเหล่านี้ ว่า....
- ต่อมาผมนำเสนอเรื่อง จดหมายน้อย 5 ฉบับ สังคมเริ่มมองเห็นภาพแก๊งค์ชั่ว.
- โฟกัสสุดท้ายครั้งนั้นของผม ค่อย ๆ ฉายไปที่
มี "สตรี" เคลื่อนไหวผิดสังเกต.
- รีบจะต้องทำการเบล็คแผนพระลิขิตไว้ก่อน .
- เพราะดันพลาดขนาดจะให้หน่วยงานรัฐ (ฆารวาส)
ส่งเรื่องให้ มส. ฟื้นอธิกรณ์พระไปโน้น.
- ดังนั้น เพราะเกรงเรื่องจะใกล้ตัว .
- การหยิบ พระลิขิต ออกมาเล่นงาน มส. ก็เลยต้องค่อย ๆ เงียบ.
......
จากจดหมายน้อย เป็น หอก.
- ต่อมาเมื่อ มาฆบูชา 22.02.2016 ที่ผ่าน
มหามกุฏ ฯ จัดเสวนาขึ้น.
- วันนั้น เจ้าคุณสุวิทย์ วัดพระราม 9
เปิดประเด็น จากจดหมายน้อย มาเป็นคนถือหอก
ที่ให้ทิ่มแทงสงฆ์ทุกวัน โดยทำอะไร "ก็ไม่ผิด" .
.....,
- คราวนั้น ท่านเรียกร้องให้สังคมช่วยกันไปเปิดหลังม่านไปดูว่า ....
"มือไหน มือใคร ที่คอยถือหอกให้มา ทำร้ายประมุขสงฆ์
ที่เจตนาที่กะจะตียอดเจดีย์ให้หักกันเลย
- หลังจากมันตีชาติจนแยกเป็น 2 สี สำเร็จไปแล้ว.
- ตอนนี้มาสถาบันศาสนา
- ต่อไปอาจมุ่งไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์
ซึ่งน่าเป็นห่วงมาก".
- นี่เจ้าคุณสุวิทย์ วัดพระราม 9 พูดไว้.
- จากนั้นท่านก็โดน พุทธอิสระถล่มเต็ม ๆ ในโพสต์รุ่งขึ้น.
(หาเปิดดูรายละเอียดในยูทูปได้)
........
- เป็นไงครับ อ่านแล้ว เริ่มมองเห็นภาพบ้างยัง.
- เกมชั่วแบบนี้ คนธรรมดาคิดเป็นหรือครับ.
- คนธรรมดาไหว้พระ สวดมนต์แบบเรา ๆ จะตามมันเกมทันหรือครับ
มันยิ่งกว่าหนัง "เจมบอนส์ 007" เสียอีก.
........
- นั่น คือ แค่จิ๊บ ๆ ในอดีต ครับ
- แต่ยังมีเรื่องตื่นเต้น ในปัจจุบันอีกครับ.
- ตามผมมา ในวันนี้ ผมจะนำมาเปิดหูเปิดตา.
- ไปไล่ดูเกมชั่วของแก๊งค์นรกกันครับ....
.....
- ก่อนอื่นจะบอกว่า อันตัวผมนั้น เลือดอาจารย์มันเข้ม ในการป้องภัยพระศาสนาครับ.
- ถ้ากลัวอะไรง่าย ๆ ผมคงไม่มายืนซดกับพวกชั่วได้นานกว่า 3 เดือนนี้หรอกครับ.
- ไอ้ที่กะเล่นเกมสกปรกใต้ดิน ขู่ผมเช้าเย็นว่า ..
"รู้เปล่า มันเป็นของพระใคร ระวังหัวจะหลุด"
- ขอสั้นๆ ว่า "กูไม่กลัวมึงหรอก"
ไม่ต้องมาขู่ถึงเยอรมันครับ.
.......
- ถ้าจะตายเพราะป้องภัยศาสนา ตายกับความดี ความถูกต้อง ก็ยินดี.
- มันขู่และหาทางเล่นงานผมทุกทางตลอดแหละครับ.
- แต่ผมไม่อยากสนใจ ด่าทางเฟสก็ด่าไป ถือว่า"อากาศธาตุ" ครับ.
- ก็ไม่อยากเอามาพูดถึงหรอกครับ เพราะวิสัยเสือจริง ๆ นั่น.
- มันคงไม่ใช่เอาแต่เห่าหอน แต่ดันอ้างแต่ว่า "ราชสีห์ๆ" หรอกครับ.
......
มาต่อเลยครับ
- มาวันนี้ 29.02.2016 สายด่วนปลุกผมแต่เช้ามืด.
- ส่งถึงผมมาว่า ...
จะต้องรีบสกัดแผนชั่วมัน ดักทางมันไว้ เป็นไง มาดูกันครับ.
........
- มาวันนี้ ตัวละครใหญ่จอมบงการ เผยตัวเลยครับ.
- เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ที่คอยชักใยเรื่องชั่วอยู่หลังฉาก มานานทั้งหมดเลยครับ.
- เกรดระดับตัวเป้งเลย.
- ตัวใหญ่หรือเปล่าไม่ทราบ
ก็ขนาดเป็นเจ้าของประโยคที่
ดร. วิษณุแกเคยพูดไว้นะแหละครับ...
"เป็นตัวอาจารย์ที่บรรดาลูกศิษย์อยากให้ได้ดี" นะแหละครับ.
- ก็สูงขนาดระดับที่เป็นอาจารย์ของพวกที่เคลื่อนไหว ก็แล้วกัน.
- ยังงี้ จะไม่ถือว่า "super big monk" ได้ไงละครับ.
- รูปร่างไม่สูงไม่ต่ำไม่ดำไม่ขาว ออกผิวสีแทนครับ.
- ผมบอกได้แค่นี้แหละครับ.
- พูดมากกว่านี้ คดีหมิ่นผมก็เพิ่มซีครับ.
- ดร. วิษณุแกยังหยุดเลยครับ.
......
อยากส่งอยากสื่ออีกครั้ง
- สตรีที่จับหอกพุทธอิสระ อยากบอกว่า เลิกเถอะ.
- ตอนนี้ สังคมเขารู้กันหมดแล้ว.
- อันพระแท้นั้น ท่านมองอย่างเมตตา ไม่อยากถือสาหาความอะไร.
- ท่านก็น่าจะมีสำนึก เลิกได้แล้ว พอแล้ว หยุดได้แล้ว.
- หากสุดท้าย ไม่หยุดละก็ จะหาว่า "เจ้าคุณเบอร์ลิน" ไม่เตือน นะครับ.
- เดี๋ยวองค์ผมลง "เปิดให้หมด"
- ให้ประชาชนเห็นดำเห็นแดงไปเลยละก็ สนุกกันละงานนี้.
- มันจะไร้ดินกลบหน้านะครับ.
- ถ้าถึงเวลานั้น ก็จะได้รู้ว่า ใครจับหอกพุทธอิสระอยู่ตรงไหน ไปคุยกันเรื่องอะไรบ้าง.
- แล้วไอ้เจ้าคุณที่แก่จะตายอยู่แล้วนั้น แต่ยังทะเยอทะยัน ไม่รู้จบนั้น..,
- จอมบงการอยู่ตลอดนั้น
ก็อย่าแอบทำเป็นเที่ยวเดินเฉิดฉาย ออกเนียนปกปิด
การกระทำของตน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจว่า .,,
- "ไม่ ฉัน ไม่เกี่ยว" อยู่เลย นะครับ.
....
- ขอให้หยุดเถอะครับ สั่งให้บริวารชั่วหยุดไปด้วย.
- ถือว่าเอาบุญก่อนตาย กันเถอะครับ.
- อยากจะบอกว่า ที่ผ่านมานั้นมันได้ สร้างความฉิบหาย มหาศาล ให้คณะสงฆ์มามากพอแล้วครับ.
- ญาติโยมเขาทุกข์สับสน เรื่องนี้กันมากเหลือเกิน สงสารเขาเถอะครับ.
- ที่สำคัญมันใกล้จะเป็นอนันริยกรรม เข้าไปทุกวันแล้วครับ.
- หากบรรลุแผนชั่ว ถึงจะได้สมหวัง แต่พ่วงสังฆเภทมาด้วย.
- ก็นรกอย่างเดียวนะครับ "หลวงพ่อเจ้าคุณ"
..........
- ส่วนไอ้แผนการ ปล่อยข่าว
การเช็คข่าว กับทางสายข่าวกลุ่ม ของ"เจ้าคุณเบอร์ลิน"ว่า ...
- เคลื่อนไหวอย่างไร ทำอะไร จะทำอะไรต่อ เหมือนหาข่าวตนเพื่อกันพลาดนั้น.
- เลิกคิดนะครับ เพราะผมมันไร้ตัวตนครับ.
- แล้วไอ้ที่คอยปล่อยข่าว ว่า....
- อยู่ทางโน้นที ทางนี้ที เหมือนไม่สนใจการพระศาสนา.
- แต่ยังคงมีพฤติกรรม ที่ยังคงพยายายามใช้แผนยืมมือ
"สตรีผู้จับหอก ทิ่มแทงผู้อื่น" ร่วมกันอยู่นั้น.
- อย่าว่าแต่พระเลยครับ แม้แต่ฆารวาสธรรมดาที่เขาเป็นผู้ชายแท้นั้น.
- พฤติกรรมทำนองนี้ เขายังไม่ทำกันเลยครับ ไม่อายตัวเองบ้างหรือไงครับ.
- นี่มันนิสัยนักการเมืองเกินไปกว่าจะเป็นสงฆ์แล้วนะครับ.
..........
สรูปว่า
- อันเพื่อนของหลวงพ่อของผม ที่ชื่อ สมเด็จช่วง วัดปากน้ำนั้น.
- ท่านถือเคร่งครัด การอยู่ด้วยกันแบบถือเมตตามาตลอด
จนเป็นที่รู้กันทั่วสังฆมณฑล.
- ถึงแม้จะด่าจะว่าท่าน สาดเสีย เทเสียอย่างไร.
- แต่จิตใจของท่านผมรับรองว่าสูงพอที่ไม่ถือสาหาความ หรอกครับ.
-เพราะท่านตั้งเมตตาเป็นเบื้องหน้า มาทั้งชีวิตท่านไปนานแล้ว.
- ส่วนกฏแห่งกรรมนั้น ก็คงไม่เกี่ยวกับใคร ๆ ครับ.

โชคดีมีชัยทุกท่านครับ.
เจ้าคุณเบอร์ลิน
29.02.2016



วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

รองสมเด็จ สุดทน โต้รัฐบาล ย้ำให้เกียรติพระสงฆ์บ้าง.

รองสมเด็จ สุดทน โต้รัฐบาล ย้ำให้เกียรติพระสงฆ์บ้าง.

 

 .......

- ปัญหาสงฆ์เริ่มชักลามไต่ระดับขึ้นสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้วละครับ
กับความอัดอั้นที่เกินสุดจะอดทน ต่อพฤติกรรมคน ของรัฐบาล
- ที่ดูเหมือนเล่นเกมชักเย้อ กับ การสถาปนาตำแหน่ง สมเด็จพระสังฆราชรูปใหม่.
- ทั้งสังคมก็เริ่มเชื่อว่า รัฐบาล ได้ให้การหนุนหลังบางกลุ่มให้ ออกมาสกัดสมเด็จช่วงจริง ๆ.
..................
- วันนี้ มีพระสงฆ์ระดับ มหาเถระขั้นผู้ใหญ่ขนาด ชั้น รองสมเด็จ พระราชคณะ เป็นเจ้าคณะภาคทางเหนือ.
- เปรียบก็เหมือนแม่ทัพน้อยภาคที่ 3 คือ ท่าน พระพรหมเสนาบดี วัดปทุมคงคา กทม.
................
- วันนี้ แสดงความที่ สุดทนพฤติกรรมของรัฐบาล ที่นับวัน ยิ่งไร้ความจริงใจ
ต่อการแก้ปัญหาสงฆ์.
- ทำนองปากว่าตาขะยิบเห็นพร้อง ไปกันชนกลุ่มน้อยของสังคม ที่ซ่อนอยู่วงศาสนา ที่ได้ออกมาสร้างปัญหาแกวงการสงฆ์รายวัน.
...............
- มาวันนี้ พระระดับรองสมเด็จพระราชาคณะ ก็เกิดสุดที่จะอดทนต่อไป จึง
ได้ออกมาสื่อส่งไปยังรัฐบาลโดยตรง ๆ แบบไม่ต้องอ้อมค้อม.
- สื่ออย่างไร ตามผมมาครับ.
................
สาระข่าว.....
รองสมเด็จ ”โต้" รัฐบาล ว่า สงฆ์ไม่ได้แตกแยก ย้ำให้เกียรติกันบ้าง..
“พระพรหมเสนาบดี” ออกมาตอบโต้รัฐบาลว่า ......
คณะสงฆ์ไม่ได้แตกแยก ย้ำควรให้เกียรติพระสงฆ์
อย่าส่งทหารไปตามวัดไม่เหมาะ.
แนะนึกถึงคุณความดีพระสงฆ์ส่วนใหญ่ ทำเพื่อประชาชน สังคม ประเทศชาติ.
...............................
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2559 พระพรหมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา
เจ้าคณะภาค 7 (เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน).
- ได้ออกมากล่าวถึงรัฐบาลที่ไม่เชื่อมั่นมหาเถรสมาคม(มส.) และระบุว่า .....
- คณะสงฆ์ขัดแย้งแตกแยกว่า คณะสงฆ์ไม่ได้ขัดแย้งแตกแยกใด ๆ .
- โดยเฉพาะ การเสนอนาม สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช.
- ในการสถาปนา เป็นสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมส.ทั้งฝ่ายธรรมยุต และฝ่ายมหานิกาย.
- มีมติเห็นชอบร่วมกัน ตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม 2535.
- ซึ่งการที่มส.มีมติเกี่ยวกับเรื่องสังฆราช ออกไปแล้ว.
- แต่ฝ่ายรัฐบาลไม่ให้ความเชื่อถือ ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน.
- ที่สำคัญตนได้รับรายงานว่า มีทหารเข้าไปตามวัดต่างๆในพื้นที่ภาคเหนือ.
- ก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ฝ่ายบ้านเมือง ทำไม่เหมาะสม ไม่ให้เกียรติคณะสงฆ์ไทย.
- ซึ่งคณะสงฆ์จะทำอะไร มีระบบ มีพระธรรมวินัย ยึดพ.ร.บ.คณะสงฆ์
และจริยาพระสังฆาธิการคอยกำกับ.
- อยากให้ระลึกถึง สิ่งที่พระสงฆ์ได้กระทำซึ่งล้วนแล้วแต่เพื่อประโยชน์
ประชาชน สังคมและประเทศชาติ.
....................................
พระพรหมเสนาบดี กล่าวสรูปท้ายว่า.....
- ตอนนี้การเมืองเข้ามายุงเกี่ยวกับศาสนา ชาวบ้านประชาชนทั่วไปเขาดูออกว่า .....รัฐบาลกระทำอย่างไรกับคณะสงฆ์.
- พยายามให้ประชาชนเห็นว่า คณะสงฆ์ขัดแย้งซึ่งความจริงไม่มีเลย.
- เวลานี้จะให้คณะสงฆ์รวมพลังกันให้เห็นก็ได้.
- และอยากจะบอกว่า พระสงฆ์ มีแต่ธรรมะ ไม่มีศาสตราวุธ.
- อย่างไรก็ตาม ขอให้ฝ่ายบ้านเมือง ให้เกียรติคณะสงฆ์กันบ้าง.
- ให้นึกถึงคุณงามความดีที่คณะสงฆ์ได้ทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง.
- หากเหตุการณ์ยังเป็นเช่นนี้ ต่อไปความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระ
มหากษัตริย์ จะอยู่ได้อย่างไร.
- พระพรหมเสนาบดี กล่าวสรูปในที่สุด.
..............................
- เป็นรายละเอียดที่ท่านเจ้าคุณ รองสมเด็จพระราชาคณะ
ชื่อ พระพรหมเสนาบดี แห่ง วัดปทุมคงคา กทม. ได้กล่าวไว้ วันนี้.
- นี่เป็นนับเป็นสัญญาณสำคัญที่สุด ตัวแทนจากสังฆมณฑล
ที่รัฐบาลจะต้องฟัง และมองข้ามไม่ได้เด็ดขาด โดยประการทั้งปวง.
- เพราะผู้พูดเป็นพระมหาเถระผู้ใหญ่ ระดับรองสมเด็จพระราชาคณะนะครับ
ไม่ใช่พระหนุ่มเณรน้อยดังที่ผ่าน ๆ มาแล้ว.

โชคดีมีชัยทุกท่านครับ
เจ้าคุณเบอร์ลิน
28.02.2016
แนบ นสพ. เดลินิวส์ 28.02.2016
http://www.dailynews.co.th/education/382521



เสียงจากแดนพุทธภูมิ เตือนสติคนไทยให้รู้จักบุญคุณพระพุทธศาสนา.

เสียงจากแดนพุทธภูมิ เตือนสติคนไทยให้รู้จักบุญคุณพระพุทธศาสนา.

 

 ....

- วันนี้ ผมจะนำไปกราบ พระดี มีเมตตาสูงรูปหนึ่ง เพื่อรับเอาคติธรรมจากท่าน มาประดับสติปัญญาด้วยกันครับ.
- ที่ถือว่าท่าน เป็นกำลังหลักที่สำคัญ ในการทำหน้าที่พระธรรมทูตในต่างแดนสำคัญรูปหนึ่ง.
- ท่านได้ทำหน้าที่เชื่อม และสืบสายสัมธ์ พุทธศาสนา ระหว่างไทย-อินเดีย ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดในปัจจุบัน.
- ถ้าเทียบกับเจ้าคุณเบอร์ลิน หากท่านเป็นเจ้าอาวาส ผมก็เท่ากับเณรละครับ.
- นั้นคือ ท่านเจ้าคุณวีรยุทธ หรือ พระเทพโพธิวิเทศ หัวหน้าพระธรรมทูตสายอินเดีย - เนปาล
- เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา
- เจ้าอาวาสวัดไทยกุสินารา
- เจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินี ที่ประเทศอินเดีย ครับผม..
.................
- จริง ๆ แล้ว เมื่อวานนี้ ท่านเจ้าคุณเทพ ฯ วีรยุทธ ท่านได้ออกมาพูดถึงสถานการณ์ปัญหาสงฆ์ ปัญหาทางสังคมทางศาสนา
ที่เกิดขึ้นที่ประเทศไทยขณะนี้ ได้ละเอียด ได้อย่างชัดแจ้งทีเดียว.
- โดยเฉพาะเรื่องรู้คุณ หรือ การกตัญญู ต่อพระรัตนตรัย และเน้นการแผ่เมตตาให้กัน และท่านพูดยาวมากในครั้งนี้.
- เป็นการพูดจากคนที่มีประสบการณ์สูง ที่ผ่านทำงานมามาก
ทั้งด้านสังคม ศาสนา ทั้งใน และต่างประเทศ
ท่านเป็นผู้ที่ถ่ายทอดช่วงต่อประวัติพุทธศาสนาอินเดีย-ไทย
ได้อย่างชัดเจนอีกด้วย.
................
- ซึ่งในการพูดครั้งนี้หากผู้รับผิดชอบแก้ไขปัญหาทุกภาคส่วน
หรือแม้แต่ชาวไทย ชาวพุทธทุกคน หากได้นำไปพิจารณา จะมีประโยชน์มาก.
- แต่ทำไมสื่อไทยรายรายข่าวเพียงนิดเดียว ตัดตอนมาแค่สั้น ๆ ก็ไม่รู้ อ่านแล้วแทบไม่เข้าใจ.
- วันนี้ผมจะนำไปเอาประโยชน์สาระตรงนี้กันครับ.
.............................
ก่อนอื่นจะต้องขอบอกว่า......
- คนไทยไปอินเดียหากได้พบเจ้าคุณเทพฯ ถือว่าได้รับเกียรติจากแผ่นดินพระพุทธเจ้า.
- ท่านเจ้าคุณเทพฯ นั้น ต้องถือว่ามีอิทธิพลทางความคิดกับคนไทยทุกระดับ.
- มีคนเคารพนับถือมาก ท่านมีงานเขียน งานบรรยายมายาวนาน ส่วนมากจะเกี่ยวกับแดนพุทธภูมิ.
- โดยเฉพาะผู้ใหญ่ บ้านเรา หากใครไปอินเดีย หากไม่ได้เจอ ไม่ได้พบ ไม่ได้สนทนา ไม่ได้ฟังเจ้าคุณเทพฯ พูด.
- มีการกล่าวว่า เหมือนมายังไม่ถึงอินเดีย.
- ดังนั้น คณะผู้ใหญ่ของเมืองไทย จึงต้องระบุทุกคณะว่า ให้ได้กราบเจ้าคุณเทพ ให้ได้.
...................................
วันนี้ มาเอาสาระประโยชน์ จากการพูดของท่านกันครับ.
"พระเทพโพธิวิเทศ" เตือนชาวพุทธ-รัฐบาล
นึกถึงคุณสงฆ์อันเป็นเสาหลักคู่บ้านเมือง
หัวหน้าพระธรรมทูตวายประเทศอินเดีย-เนปาล
ท่านพูดไว้เมื่อ 27.02.2016
"""""""""""""""""""""""
- ท่าน ให้ธรรมะถึงชาวพุทธ ฝ่ายรัฐบาล ตุลาการ นิติบัญญัติ
ให้นึกถึงคุณพระสงฆ์ เสาหลักบ้านเมือง บำเพ็ญประโยชน์เพื่อชาติมาตลอด.
- ฝากให้มองเห็นคุณ จะไม่เดือดร้อน เบียดเบียนซึ่งกันและกัน.
- ท่านว่า ในทุกเช้าที่วัดไทยพุทธคยา จะมีสวดมนต์แผ่เมตตา
ตนจะนำพระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชน หันหน้ามายังประเทศไทย.
- แผ่เมตตาให้แผ่นดินไทยสงบร่มเย็น.
- ถึงพระประมุขแห่งชาติ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองแผ่นดิน.
................
ท่านพูดต่อไปว่า........
- ได้แผ่เมตตา ไปถึงสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ผู้นำสงฆ์ ผู้ดูแลวิญญาณในการให้ธรรมะกับบุคคลทั้งแผ่นดิน.
- รวมถึงแผ่เมตตาให้แก่ ผู้บริหารบ้านเมืองสนองคุณแผ่นดินทั้งฝ่ายรัฐบาล ตุลาการ และนิติบัญญัติ.
- นอกจากนี้ ขอฝากธรรมะถึงทุกฝ่าย พุทธบริษัททั้งหลาย โลกนี้จะอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบ ต้องอาศัยความรู้คุณของกันและกัน.
- ในเรื่องของพระศาสนา ให้รู้คุณพระรัตนตรัย คุณพระพุทธ คือ พระพุทธศาสนาที่ พระมหากษัตริย์และคนไทยทุกคนให้ความเชื่อมั่น เชื่อถือ.
- โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่องค์พระมหากษัตริย์นับถือ.
- มีพระแก้วมรกตเป็นพระพุทธประธานของประเทศ.
- นึกถึงคุณพระธรรม ประเทศไทยสงบร่มเย็น.
.......................
- เพราะคนไทยเข้าถึงหลักธรรม คือ การไม่เบียดเบียน ให้อภัยเข้าถึงประโยชน์ที่จะมีร่วมกันมาเป็นข้อปฏิบัติ.
- ประการสุดท้าย คือ พระสงฆ์ ขอให้ทุกฝ่าย ฝ่ายทั้งรัฐบาล ตุลาการ นิติบัญญัติ.
- ระลึกถึง พระสงฆ์ว่า เป็นสถาบันหนึ่งที่คู่บ้านคู่เมืองมาตลอด ช่วยบ้านเมืองบำเพ็ญประโยชน์ด้วยดีมาตลอด.
- ก็ให้นึกถึงคุณของท่านที่ท่านเป็น หลักให้แก่บ้านเมืองตลอดมา.
- ถ้าเราเข้าถึงคุณกันอย่างนี้ ทุกอย่างจะร่มเย็นเป็นสุข ไม่มีความเดือดร้อน เบียดเบียนซึ่งกันและกัน.
- ก่อนจบท่านเน้นว่า......
"อย่างที่อินเดียอาตมาก็จะสอนให้คน นึกถึงคุณของกันและกันทุกอย่างถ้าเห็นคุณต่อกันจะไม่เห็นโทษ ไม่กล่าวโทษ ถ้าเห็นคุณจะไม่เป็นโทษ โทษในที่นี่ คือ ความเดือดร้อน คุณทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ของให้ทุกท่านทุกฝ่าย มีตาทิพย์ ที่มองเห็นคุณของกันและกันแล้ว ความว้าวุ่น ความสับสนต่างๆ ก็จะจบสิ้นลงไปอย่างเร็ววัน"
พระเทพโพธิวิเทศ กล่าวปิดท้ายไว้ก่อนจบ.
........................
สุดท้าย
ผมอยากจะสรูปว่า...
- คนไทยในประเทศไทย มักกล่าว ถึงคนไทย
หรือแม้แต่พระสงฆ์ที่ไปอยู่ต่างประเทศด้วยกิจต่าง ๆ นั้น ว่า....
" ไม่มีความรักชาติ รักแผ่นดิน เพราะหนีไปอยู่ต่างประเทศ อย่าได้เสนอหน้ามาพูดใด ๆ เกี่ยวกับไทย"
- ตรงนี้ผมจะบอกให้ทราบว่า "ไม่จริงครับ"
- ยกตัวอย่าง เวลาเราอยู่กับพ่อกับแม่ ความรักพ่อแม่ เหมือนน้อย
- แต่เมื่อวันใดที่ท่านจากไป เมื่อนั้นแหละครับ จึงจะรู้สึก.
- ทำนองเดียวกันครับ คนไทยออกไปอยู่ต่างแดน บางคนรัก และเป็นห่วงแผ่นดินไทยมากกว่าคนไทยบางคนในไทยเสียอีก.
- โดยเฉพาะรู้พระคุณ รู้คุณค่า ของ สถาบันพระมหากษัตริย์ และพระคุณของพระพุทธศาสนา.
เช่น เจ้าคุณเทพนี้แหละครับ เป็นตัวอย่างได้ ท่านจึงเตือนมาจากต่างแดนด้วยความเป็นห่วง และเป็นความเมตตาของท่าน.
..............
ขอสรูปคำพูดเจ้าคุณเทพ ดังนี้ ว่า...
๑. เรียกร้องให้ชาวไทยชาวพุทธในประเทศไทย ได้รู้บุญคุณ ของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์.
๒ พระมหากษัตริย์ ทรงนับถือ พระพุทธศาสนา.
๓. ให้ชาวไทย ได้รู้คุณของพระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงมีต่อคนไทย /ต่อแผ่นดินไทย.
๔. ประเทศไทยมีพระแก้วมรกต เป็นประธาน เป็นศูนย์กลาง ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ว่า เป็นแผ่นดินพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว.
๕. เรียกร้องให้รัฐบาล และคนไทยทุกคน โดยเฉพาะผู้คิดไม่ดี หรือ มีอคติต่อพระสงฆ์นั้น
ขอให้พิจารณาให้ดี ๆ ว่า พระสงฆ์นั้นถือว่า มีพระคุณต่อแผ่นดินไทยมายาวนาน ให้รู้จักบุญคุณพระสงฆ์ให้มาก.
๖. องค์ประมุขสงฆ์ คือสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ช่วง นั้น ถือว่าท่านมีพระคุณต่อพระพุทธศาสนา มีคุณูประการต่อคณะสงฆ์ไทย มีพระคุณต่อพุทธบริษัททั้งชาวไทย และชาวโลกโดยรวม ให้นึกถึงพระคุณท่าน.
๗. สุดท้าย ท่านเจ้าคุณเทพได้เน้นว่า ให้ใช้เมตตา ใช้เหตุผล ใช้สติปัญญา ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งครั้งนี้.
////
ขอทุกท่านนำไปพิจารณา และนำข้อติดเหล่านี้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ แก่ตน และแก่ส่วนรวม ตามสติปัญญาตน นะครับผม.

โชคดีมีชัยทุกท่านครับ.
เจ้าคุณเบอร์ลิน
28.02.2016



วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เสี่ยงต่อการก้าวล่วงพระราชอำนาจ : ข้อเสนอให้สมเด็จช่วงสละสิทธิ์. / พลังสงฆ์บริสุทธิ์ มจร. ขู่คว่ำบาตรรัฐบาล.

เสี่ยงต่อการก้าวล่วงพระราชอำนาจ : ข้อเสนอให้สมเด็จช่วงสละสิทธิ์. / พลังสงฆ์บริสุทธิ์ มจร. ขู่คว่ำบาตรรัฐบาล.

 

 ...............

- นสพ. เดลินิวส์ วันนี้ ได้หยิบข่าว การออกมาเคลื่อนไหวของ ประธานสภานิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ มจร.
- ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ สังกัดมหานิกาย ที่ตั้งอยู่ที่ วังน้อย อยุธยา มารายงานยาวเหยียดเลยครับ.
- ซึ่งนับเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ ฝ่ายมหานิกาย ที่ออกมาเคลื่อนไหว
กรณี ปัญหาความขัดแย้งสงฆ์ ที่กำลังร้อนอยู่ในขณะนี้
- เป็นการเคลื่อนไหวไล่ตามติด ๆ ของ มหาวิทยาลัยสงฆ์ ของ ฝ่ายธรรมยุต คือ มหามกุฎ ฯ
ที่ได้ผมได้เคยรายงาน ในครั้งการจัดเสวนา ฯ ที่มีเจ้าคุณสุวิทย์ แห่งวัดพระราม ๙ ไปแล้ว.
................
ความรู้.....
- มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง ๒ แห่งนี้ สถาปนาขึ้นโดย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
- โดยมีพระราชประสงค์ เพื่อให้พระเณร ได้ศึกษาทั้งฝ่ายธรรม และฝ่ายโลกในชั้นสูง ควบคู่กันไป.
- เพื่อพระสงฆ์ จะได้รู้เท่าทันโลก ทันต่อเหตุการณ์โลก อันเป็นประโยชน์ต่อพระศาสนา.
- ซึ่งถือว่าเป็นพระวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล เฉกเช่นการเสด็จเยือนยุโรป ถึง ๒ ครั้ง ของพระองค์.
.................
- นี่คือเหตุผลสำคัญ ว่า ทำไมพระเณรนิสิต มจร. หรือแม้แต่องค์อธิการบดี คือ เจ้าคุณ พระพรหมบัณฑิต (ศ. ดร., ปธ. ๙)
- ท่าน จึงไม่ออกมาแย้ง คุณไพบูลย์ นิติตะวัน และคณะ ที่อวดอุตริเสนอแนวคิดให้
มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง ๒ แห่ง สอนเรียนแต่ธรรมะอย่างเดียว ห้ามสอนทางโลก.
...........
- เพราะท่านเหล่านี้ ต่างเห็นว่า คุณไพบูลย์ และพวก มีความคิด เลอะเทอะ ไร้สาระ มองโลกแคบ ในเรื่องนี้
- ทั้งยังอาจไปก้าวล่วง พระราชปณิธานของ รัชกาลที่ ๕ อีกด้วย.
.......................
- นี่เป็นความรู้รอบตัวอีกเรื่องหนึ่งครับ.
..........................
ก่อนอื่นผมขอยกเอา การคว่ำบาตร มาแจงให้เข้าใจกันก่อนนะครับว่า.......
- ฆารวาส เช่นไร ที่สงฆ์ควรคว่ำบาตร
- องค์แห่งการคว่ำบาตรมีอะไรบ้าง
- เพื่อที่จะได้นำไปเปรียบเทียบกับ พฤติกรรมของฆารวาสที่มีแนวคิด มีคำพูด มีการกระทำ.
- ที่เป็นภัยต่อพระพุทธศาสนา หรือจะรวมกับ พวกครึ่งพระ ครึ่งคน ตามที่ท่าน โฆษก มส. ระบุไว้นั่นด้วยก็ได้.
........
- นี่ผมชี้ช่องแล้วนะครับว่า...
- ผมอยากจะขอให้ท่านที่อ่านโพสต์นี้ ช่วยกัน จดบันทึกชื่อบุคคล ที่เป็นภัย เป็นอันตราย ต่อพระพุทธศาสนาไว้เลยครับ.
- แล้วก็โน้นเลย ส่งชื่อ พร้อมประวัติไปที่ ประธานสภานิสิต มจร. วังน้อย โน้นเลย.
- พระท่านจะได้จัดเรียงลำดับรายชื่อไม่ให้ตกหล่น.
- นี่ ไม่ได้ยุนะครับ แต่จะให้ช่วยกันสอดส่อง ขัดขวาง พวกป่วนเมือง ที่สร้างปัญหาสังคมทุกวันนี้ กันครับ เป็นบุญอย่างหนึ่ง.
............
พระพุทธเจ้าทรงอนุญาต การคว่ำบาตร ของสงฆ์.
- การคว่ำบาตร เป็นมาตรการ การลงโทษต่อฆารวาส ที่สงฆ์พิจารณาแล้วว่า ....
- มีคุณสมบัติ ที่ถือว่าเป็นภัยต่อพระพุทธศาสนา
และเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ทรงอนุญาตไว้อย่างชัดเจน.
- มีรายละเอียดดังนี้...
(แนบรายละเอียดมาข้างท้ายครับ)
..............
เข้าเรื่องตามที่จั่วรองไว้....
- ทำไมผมจึงจั่วข้อโพสต์ไว้ว่า "พลังบริสุทธิ์ "
(อ่านรายละเอียดใน นสพ. เดลินิวส์ ที่แนบมาด้วยนะครับ)
- ตรงนี้ จริง ๆ ผมอยากใส่คำว่า "พลัง บริสุทธิ์ยกกำลังสอง" ทำไมผมจึงพูดอย่างนี้.
- เพราะอะไร ก็เพราะนิสิตเหล่านี้ เป็นนิสิตที่มีเพศที่สูง สูงกว่านิสิตตามมหาวิทยาลัยทั่ว ๆ
- คือเป็น "สมณะเพศ" คือ พระนิสิตนั้นเอง ไม่ใช่เป็นแค่นิสิตนักศึกษาเช่น มหาวิทยาลัยทางโลกทั่วไปอย่างเดียว.
- เป็นพระนิสิต เป็นพระนักศึกษา ที่มีศีลกำกับครับ จึงต้องถือว่า "พลังบริสุทธิ์ยกกำลังสอง"
- เฉพาะลำพังการออกมาเคลื่อนไหว การออกมาแสดงออกในเรื่องต่าง ๆ ของนักศึกษามหาวิทยาลัย ต่าง ๆ ทั่วไปนั้น.
- เรื่องการให้ความอิสระด้านต่าง ๆ แก่เด็ก ๆ ที่กำลังศึกษาอยู่นี้ เป็นเรื่องที่โลกสากล โดยเฉพาะรัฐบาลแต่ละประเทศ และสังคมโลก.
- จะต้องปฏิบัติต่อนักศึกษาเป็น กรณี พิเศษครับ
- เพราะพลัง และความคิดเหล่านี้ เป็นความคิดที่บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ของเยาวชน ของชาติ ที่จะต้องรับผิดชอบชาติ ในอนาคต.
................
- ผมเน้นตรงนี้ ก็เพื่อให้สังคม ให้ฝ่ายอคติครอบงำจิตใจ ได้มองการแสดงออกของ พระนิสิต มจร. ในครั้งนี้ ด้วยใจที่เป็นกุศลครับ.
.........
- ผมกำลังจะสื่อไปที่ อ. ส. ศิวรักษ์ ด้วย คือ อ. ส. ศิวรักษ์ ถึงแกจะไม่ได้เรื่องในหลาย ๆ เรื่อง เช่น
ชอบเสนอสิ่งที่เป็นไปไม่อยู่ประจำ มาคราวนี้ แกก็ดันมาเสนอให้ยุบ มหาเถรสมาคม อีกรอบ.
- แต่สิ่งดี ของ อ.ส. ศิวรักษ์ คือ แกเมตตาต่อนิสิตนักศึกษาเป็นพิเศษ และแกก็แสดงออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่องด้วย.
- ครั้งนี้ ผมจึงอยากให้ อ. ส. ศิวรักษ์ ทำกุศลสักครั้ง คือ ให้ออกมาส่งเสริม สนับสนุนการแสดงออกของ พระนิสิตในครั้งนี้ด้วย.
- ผมจะคอยดูว่า จากการที่มีแต่ด่ากับด่า พระผู้ใหญ่นั้น
พอมาถึงพระเด็ก ๆ แบบนี้ แกจะว่าไง.
- ถ้าขืนแกยังด่าอยู่อีก ก็คงจะสรูปว่า .....
แกมีปกตินิสัย "ด่าพระมาหลายร้อยชาติแล้ว"
- และผมก็คงจะส่งชื่อ อ.ส. ศิวรักษ์ แกให้ พระนิสิต ขึ้นบัญชี ติดโผในการคว่ำบาตรครั้งนี้เสียเลย.
- ทั้ง ๆ ที่คุ้นกันดีนี้แหละ.
- โทษฐานยิ่งแก่ยิ่งเลอะ ด่าพระได้หมด
ตั้งแต่เณรยันสังฆราช ดีไม่ดี อาจรวมเด็กวัดไปด้วย.
..............
สรูปสาระสำคัญ การออกมาเคลื่อนไหว ของ พระนิสิต มจร.
- คัดค้านแนวคิดรัฐบาลในการทำประชาพิจารณ์
กรณีตั้งสังฆราช ซึ่งผมได้แสดงทัศนะ และจบไปแล้ว คือ
รัฐบาล โดย โฆษก รัฐบาล ออกมาปฏิเสธ และถือว่า แนวคิดนี้จบไปแล้ว.
- เรียกร้องให้ รัฐบาล มีความจริงใจ และจริงจัง
ในการแก้ปัญหาสงฆ์ โดยเฉพาะปัญหาพุทธอิสระ
ที่สร้างรอยร้าวต่อสังคมสงฆ์ และเป็นภัยต่อพระพุทธศาสนา.
- เรียกร้องให้รัฐบาล รีบดำเนินการตาม มติ มส.
ที่ชอบด้วย ธรรมวินัย กฏหมายสงฆ์ และจารีต กรณีเสนอรายนาม สมเด็จช่วง ขึ้นเป็น สังฆราช.
- พระนิสิต และองค์กรสงฆ์รุ่นใหม่ ได้แสดงความสงสัย และไม่ไว้ใจ ในตัว คุณ สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีที่ดูแล พศ.
- กรณีที่ ท่าน สุวพันธุ์ ได้ออกมาแสดงทัศนะ ในเชิงลบต่อสังคม อันอาจยากต่อการแก้ปัญหาสงฆ์ในปัจจุบัน เช่น
- ท่าน สุวพันธุ์ มีความสงสัย ในอำนาจหน้าที่ มส. / สงสัย วัดพระธรรมกาย ประเด็นเป็นภัยความมั่นคงหรือไม่
และออกปฏิเสธแทนมุสลิมว่า ไม่น่าเป็นภัยต่อพระพุทธศาสนา ทั้งบอกว่า พุทธอิสระ ไม่มีแบ็คหนุน ฯ
ในครั้งที่พบปะ กลุ่ม เปรียญ ๙ ประโยค เมื่อวันมาฆบูชาที่ผ่านมา.
- จึงเรียกร้องให้รัฐบาล พิจารณาเปลี่ยนตัว ท่านสุวพันธุ์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรี ที่ดูแลงานพระศาสนา.
- ไม่เช่นนั้น จะเรียกร้องให้พระสงฆ์ทั้งประเทศประกาศคว่ำบาตรรัฐบาลชุดนี้.
...........
- นี่คือสาระสำคัญที่ พระปลัดนนท์ ประธานสภา นิสิต มจร.
และ เครือข่าย องค์กรสงฆ์รุ่นใหม่ ได้ออกมาเรียกร้องในครั้งนี้.
......................
สุดท้ายก่อนจะจบโพสต์นี้ .....
ผมจะขอขยายความหัวข้อต้นโพสต์ไว้แบบระมัดระวังว่า......
- วันนี้ ผมอยากจะสื่อตรง ๆ ไปที่ .....
ท่าน พล.อ. สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิก สนช. รัฐบาลปัจจุบันว่า .....
- ที่ ท่านได้ออกมาแสดงทัศนะในวันนี้ ใน เดลินิวส์ออนไลท์ว่า......
"ขอแนะนำ ให้สมเด็จช่วง เสียสละ ไม่รับตำแหน่ง - ปัญหาจบ"
ทำนองว่า คนที่แก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ดีที่สุด คือ สมเด็จช่วง
"ขอให้ประกาศไม่รับตำแหน่ง พระสังราช ความขัดแย้งจบทันที"
- แถมพูดต่ออีกว่า...
"โลกยังจะจารึกเป็นประวัติศาสตร์ว่า
เป็นผู้จรรโลงพระพุทธศาสนา และเป็นผู้เสียสละอย่างแท้จริง".
- พูดแบบนี้ อาจเป็นเรื่องได้ง่าย ๆ นะครับ ท่าน สมเจตน์.
..............
- ตรงนี้ วันนี้ ผมยังไม่พูดอะไรมาก .....แต่
จะขอยกยอดไปในโพสต์หน้า ถ้าท่าน สมเจตน์
ยังไม่หยุดพูดลักษณะนี้อีก......
- ในเบื้องต้น จะขอถามย้อนกลับไปยังท่าน
พล.อ. สมเจตน์ บุญถนอม สัก ๕ ข้อ ว่า.....
ข้อที่ ๑.
- วันนี้ ท่านสมเจตน์ ท่าน ใช้สมองอะไร ถึงคิดออกมาได้แบบนี้ครับ
- สมมติถ้าดำเนินการอย่าง ที่ท่านเสนอมา นั้น
- แต่ปัญหายังไม่จบละ ท่านจะรับไหวหรือ หรือมีอะไรการันตี
ได้.
ข้อที่ ๒.
- การปฏิวัติแก้ปัญหาบ้านเมืองมาไม่รู้กี่ครั้ง
มีรัฐบาลทหาร บริหารประเทศ
แบบมีอำนาจเต็มแบบที่ทหารคิดนั้น
มันมีปัญหาอะไรที่จบเบร็ตเสร็จบ้าง เรื่องความขัดแย้งก็ไม่เห็นจบ.
ข้อที่ ๓.
- คนไทยทั้งประเทศ ในฐานะที่เป็นคนไทย และพระสงฆ์ไทย
ทุกคนล้วน เป็น พสกนิกร และข้าในแผ่นดิน
ขององค์พระประมุข ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ด้วยกันทั้งสิ้นนั้น.
- ขอถามท่าน พล.อ. สมเจตน์ ตรงนี้ ว่า.....
" สมเด็จช่วงหรือครับ ที่ท่าน จะอยู่ในฐานะเลือกได้ ในความ ....
....อยากเป็น หรือไม่อยากเป็น...
ในตำแหน่ง สมเด็จพระสังฆราชนี้ได้" .
.........
- สมเด็จช่วง ท่านเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ อันดับหนึ่ง ของ สังฆมณฑล
- ทั้งยังดำรงตำแหน่ง เป็น
ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในแผ่นดินอีกด้วย.
- นี้หรือครับ ที่จะมาแสดงออกได้ แบบท่านสมเจตน์พูด.
- เพียงแค่คิด ยังไม่บังควรเลย ซ้ำพูดออกมาก็ยิ่งไม่บังควรใหญ่.
- นี่ยังไม่นับรวมถึงหน้าที่พุทธสาวก และคุณธรรมภายในอีก.
- ไปคิดก่อนพูดนะครับ สั้น ๆ ว่า อันตราย และเสี่ยงนะครับ.
................
- ถามท่านสมเจตน์ ว่า ท่านไม่รู้หรือครับว่า ....
- นี่ นอกจากจะต้องยึดกฏหมายอย่างเคร่งครัดแล้ว
- สิ่งที่สำคัญสูงสุด ที่พวกเราจะต้องเทิดทูน ก็คือ.....
"เป็นพระราชอำนาจโดยตรง ของ พระมหากษัตริย์" .
............................
ข้อที่ ๔.
- ท่านเป็นนายทหารมามีถึง ยศ พลเอกได้อย่างไรครับ จึงไมคำนึงเรื่องสำคัญเช่นนี้
แม้ตัวท่านจะศรัทธาไม่ศรัทธาต่อ สมเด็จช่วง ก็ไม่มีใครว่าได้.
- แต่การแสดงทัศนะอะไรออกมาทางสื่อ ต้องระวัง ตัวท่านเป็นผู้ใหญ่
ท่านต้องแยกแยะดี ๆ นะครับ จะต้องรู้จักเก็บอารมณ์ ควบคุมอารณ์ไว้บ้าง เด็ก ๆ มันจะได้นับถือ.
ข้อที่ ๕.
- ผมจะยังไม่พูดอะไรมากต่อนะครับ คิดว่าท่านอาจพลั้งเผลอ
แต่เบื้องต้น ผมอยากขอร้องให้ท่าน ในฐานะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง
จงกรุณาหยุดพูดแบบนี้ ทันทีนะครับ เรื่องแบบนี้ละเอียดอ่อนนะครับ.
- เพราะเมื่อวาน ท่านยังพูดเรื่องให้นายกให้ ม. ๔๔ จัดการทหารที่โกงดี ๆ อยู่เลยนี่ครับ
- มาวันนี้ไหง หนังคนละม้วนล่ะท่าน.
.....................
โชคดีมีชัยทุกท่านครับ
เจ้าคุณเบอร์ลิน
26.02.2016




วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

หรือว่า ปัญหาสงฆ์ อยู่ที่ ท่านสุวพันธ์ุ เสียเอง.

หรือว่า ปัญหาสงฆ์ อยู่ที่ ท่านสุวพันธ์ุ เสียเอง.


.....................
- โพสต์ย้อนหลังไปหนึ่งโพสต์ ผมได้พูดถึงท่าน สุวพันธ์
รัฐมนตรีที่กำกับดูแล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ.
- ซึ่งผมได้นำเอาสาระสำคัญ ในการเปิดอกพูดคุย ปัญหาสงฆ์ในสถานการณ์ปัจจุบัน กับ กลุ่ม เปรียญธรรม ๙ ประโยค
นำโดย ดร. บรรจบ บรรณรุจิ ที่ พุทธมณฑล
เมื่อวันมาฆูชา ๒๒ กพ. ที่ผ่านมา มาโพสต์ให้ทราบกันไปแล้ว.
..................
- ในโพสต์ครั้งนั้น ผมจั่วหัวข้อว่า
"สุวพันธ์ุ ยันหนักแน่น ไม่มีแบ็คหนุ่นพุทธอิสระ".
........................
- โดยผมได้พยายามสรูปหัวข้อ ที่อาจเรียกว่า "ข้อมูลดิบ"
ที่ยังไม่ได้ส่งถึงสื่อมาให้อ่านกันเลย.
- เพราะคนที่บันทึกส่งมาให้ผมนั้น ก็ร่วมอยู่ในวงการสนทนาน
ครั้งนั้นด้วย.
...................
- ซึ่งวันนั้น ผมก็ยังไม่ได้ แสดงหรือวิจารณ์คำพูดของ
ท่าน สุวพันธ์ุ ไว้ในโพสต์.
- เพราะนั่นเป็นเจตนาของผมเอง ด้วยเหตุผลว่า.....
- สื่อจะรายงานเรื่องนี้ออกไปในทิศทางเช่นไร
- เมื่อโพสต์ออกไปแล้ว ผู้อ่านจะแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ คำพูดนี้อย่างไร.
............................
- ซึ่งก็ได้ผลสรูปแล้วครับว่า.....
- สื่อไม่ได้รายงานตรงประเด็นนัก ซึ่งก็เป็นอันเข้าใจได้ ในสถานการณ์ที่บ้านเมืองเราไม่ปกติเช่นนี้.
................
- แต่ผู้คนในสังคมก็สงสัยว่า.....
- ทำไมคำพูดสำคัญ ๆ ของ ท่านสุวพันธ์ุ ที่พูดในวงสนทนาครั้งนี้ จึงถูกสื่อมองข้ามไป.
- ในส่วนผู้อ่านโพสต์นั้น ส่วนมาก ก็ไม่เชื่อ และก็ไม่ให้น้ำหนัก
ต่อ คำพูดของ ท่าน สุวพันธ์ุ นัก.
...................
- ที่สำคัญ กระแสสังคม ยังแสดงความผิดหวังต่อตัว ท่านรัฐมนตรี ที่ดูแลงานพระศาสนาในนามรัฐบาลอีกด้วย.
................
- ซึ่งตรงนี้ ผมถือว่า "อันตรายอย่างมาก" อันตรายต่อพระพุทธศาสนาด้วย.
- เป็นอันตรายที่อาจส่งผล ไปถึงความน่าเชื่อถือไปยังรัฐบาลเสียเองว่า
"มีความจริงใจ และมีความเข้าใจ ในการแก้ปัญหาสงฆ์แค่ไหน".
.............................
- ประวัติย่อ ท่านสุวพนธุ์ สักเล็กน้อยนะครับ
- ท่านสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ นั้น เดิมเป็น จ. ราชบุรี บิดาเป็นนายทหารบก ยศพันเอก จบ ม.ศ. ๓ แล้วไปเรียนจบที่ ม. เชียงใหม่.
- รับราชการสุดท้าย ผอ. สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ประวัติคนทำงานด้านข่าวกรอง ส่วนมาก หาได้ยากครับ.
...........
- เป็นที่น่าส่งเกตว่า ท่านสุวพันธุ์ เป็นคนราชบุรี บ้านเดียวกับ ท่านพี่ ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตบัญฑิตวิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.
.........
- ตัวท่านประสงค์นั้น ท่านรับราชการครูมาก่อน จากนั้นทำงานด้านความมั่นคง จนได้ฉายา ว่า บุรุษคาบไปร์ เพราะชอบสูบไปร์.
...............
- จนสุดท้ายเป็น อดีต เลขาธิการ สมช. และ อดีตเลขาธิการ นายกรัฐมนตรีที่ชื่อท่าน พล.อ. เปรม.
..............
- แต่ทั้งสองท่าน เป็นคนละอำเภอ เพราะคุณประสงค์ แกเกิดที่บ้านโป่ง.
........................
- ผมไม่ได้มีเจตนาจะโยงท่านประสงค์หรอกครับ.
- แต่ต้องการจะให้ทราบฐานข้อมูลส่วนตัวของท่าน สุวพันธุ์ ว่า ท่านเป็นมาอย่างไรเท่านั้น.
...................
- ซึ่งผมกำลังจะพูดขยายความ ในคำพูด ของท่านสุวพันธุ์ ประกอบประวัติของท่าน ว่า .....
- คนระดับนี้หรือครับ ที่พูดเหมือนคนไม่รู้ข้อมูลความมั่นคงของชาติเลย.
...........
- คนระดับนี้หรือครับ ที่จะคิด และจะพูดเรื่อง เกี่ยวกับหน่วยงานที่ท่านรับผิดชอบโดยตรง เช่น พศ. และ มส.
แบบนี้ออกมาได้อย่างไร.
...............
มาดูกันครับ....ว่า
- ท่านสุวพันธุ์ คิด และพูดอย่างไร ในวงสนทนาครั้งนี้
- และทำไม ผมจึงว่า "อันตราย" มาดูกันครับ.
............................
- ทั้งหมดที่ผมจะพูดถึงนี้.......
- ท่านสุวพันธุ์ จะออกมาปฏิเสธว่าไม่จริง ก็ได้นะครับ.
- แต่คนที่เขานั่งฟังอยู่ด้วยนั้น เขาได้ยินกันหมดครับ.
...................
- ก่อนอื่น ขอย้ำว่า นี้เป็นข้อมูลดิบนะครับ ดิบแบบไม่ปรากฏในการรายงานสื่อไทยเลย ไม่ว่าสำนักไหน.
- ซึ่งผมเห็นว่า น่าจะมีประโยชน์ในการช่วย แก้ปัญหาสงฆ์ ปัญหาสังคมก็ได้.
- วันนี้ ผมจึงตั้งใจหยิบมาขยาย เพื่อเปิดปัญญากันนะครับ.
..........
- เพราะในวันนี้ แค่ข่าวรายงาน ปรากฏนิดหน่อย ว่า .....
"เร่ืองที่ท่านสุวพันธุ์ เสนอจะทำประชาพิจารณ์ หรือประชามติ ตำแหน่งสังฆราช" เท่านั้น
- ผู้คนก็ออกมาประสานเสียงคัดค้านทั้งบ้านทั้งเมืองตอนนี้
เพราะสังคมเขาดูแล้ว ยิ่งเลอะเทอะไปใหญ่.
..............................
- ผสมกับเช้านี้ ด้วยไทยรัฐพาดหน้าหนึ่งว่า
"คนคัดค้าน สมเด็จช่วง ขึ้นสงฆราช ไม่ใช่มีแค่ พระหนึ่ง ฆาราวาส หนึ่ง แต่มีเป็นล้าน".
....................
- เพียงแค่นี้ ก็เล่นเอา ท่านสุวพันธุ์ ลมออกหู ไปร่ายยาวกับ เดลินิวส์รอบใหญ่ ๆ.
................
- และสุดท้าย ก็ขึ้นไปเอ็ดจะเอาเรื่องกับ จนท. ที่สำนักพุทธตั้งแต่เช้าแล้วไปอีกรอบ.
....................
- ผมว่า ก็อย่าไปต่อว่า จนท. ชั้นผู้น้อยเขาเลยครับ
เขาไม่มีอำนาจที่จะมาชี้แนะ หรือบอกกล่าวอะไรกับท่านได้หรอก.
..................
- เจอท่านก็แทบจะวิ่งหนีกัน หรือเดินตัวรีบ กันไปหมดแล้ว
ในสถานการณ์แบบนี้ สงสารเขาเถอะครับ.
......................
- อย่าไปโทษใครเลยครับท่าน สุวพันธุ์
เพราะปัญหาเหล่านี้ ส่วนใหญ่ ของทั้งหมด
ผมว่ามันเริ่มขึ้นที่ตัวท่านนะแหละครับ
โดยเฉพาะในการพูดกับสื่อของท่านในทุก ๆ ครั้ง.
......................
- มาดูว่าทำไม ผม "เจ้าคุณเบอร์ลิน" จึงพูดอย่างนี้.
- เบื้องต้น ผมขอยืนยันก่อนว่า ผมจะสุภาพ และพูดด้วยเจตนาดีกับท่าน.
- ไม่มีแม้แต่นิดเดียว ในการคิดร้ายต่อท่าน เพราะผมไม่เคยรู้จักท่าน ไม่เคยเห็นท่าน.
..............
- ผมก็ได้แต่หวังว่า เผื่อในครั้งหน้า เมื่อท่านมีโอกาสได้อ่านโพสต์นี้แล้ว.
- ท่านจะคิดใหม่ พูดใหม่ ทำใหม่ เพื่อเป็นพระคุณ
แก่พระศาสนายิ่งขึ้นนะครับ.
....................
- คำพูดที่ท่าน สุวพันธุ์ ที่พูดในวง เปรียญ ๙ ประโยค เมื่อ 22.02.2016 นั้น.
....................
- ปรากฏว่า เมื่อผมรายงานในโพสต์ ครั้งที่แล้ว
- ชาวพุทธที่รักพระศาสนา ได้ยินแล้ว
- เกิดอาการ หนาวเย็น ไปถึงขั้วหัวใจเลยครับ ดังนี้......
- ผมขอยกยอดเอามาในส่วนเฉพาะที่ผมคิดว่า สื่อไม่ได้รายงานนะครับ และเห็นว่า สมควรที่ชาวพุทธผู้รักพระพุทธศาสนา
จะต้องได้รับฟังรับทราบร่วมกันนะครับ.

- ในส่วนอื่น ๆ นั้น ก็ให้หาอ่านได้ ในสื่ทั่วไปนะครับ.
...................
คำพูด สำคัญ ท่าน สุวพันธุ์ ....
คำพูดที่ ๑
- ท่านสุวพันธุ์ บอกว่า .......
" เรื่องอำนาจหน้าที่ มส. นี้ก็น่าสงสัย"
- ขอขยายว่า....ถ้าท่าน สุวพันธุ์ พูดออกมาแบบนี้จริง
- ขอสั้น ๆ ว่า "จบกันเลย" ครับ.
- แทบจะเรียกได้ว่า ......
- ทำเอาสังคมไปกันไม่ถูกเลยครับ งานนี้.
.............
- พูดออกมาแบบนี้ สังคมพากันหมดความสงสัยกันเลยว่า..
"ทำไม มติ มส. ในยุคนี้
จึงมีคนออกมาคัดค้านได้ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์สงฆ์ไทย".
............
- นี่ เป็นคำพูดของ ท่านรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดูแลกำกับ พศ. และและ มส. นี้นะครับ
- ท่าน ยังมาสงสัย อำนาจ หรือที่ มส.อีก เป็นไปได้อย่างไร.
...............
- กรรมการมหาเถรสมาคม หรือ มส. ทุกรูปฟังไว้นะครับผม.
- วันนี้ ท่าน รัฐมนตรี ที่เดินเข้าเดินออก มส. ดูแลกิจการพระศาสนาในนามรัฐบาลนั้นนะ.
- เขาเกิดมาสงสัย อำนาจ และหน้าที่ของท่านชะแล้ว.
..................
- หรือนี่เขา จะมาช่วยท่านแก้ปัญหา ช่วยงาน หรือ มาทำอะไรกันแน่ครับ.
...........
- ตรงนี้ ก็ไปคิดเอาเองก็แล้วกันหลวงพ่อ หลวงปู่ มส. ผมแค่เอามาบอกเฉย ๆ ว่า....
"เป็นอย่างไงคนใกล้ชิดพระเรา ทำไมเขาออกมาพูดแบบนี้ไปได้".
....................
คำพูดที่ ๒
- เรื่อง อธิกรณ์ ธัมมชโย ซึ่ง มส. มติชัดเจนไปแล้ว
ตั้งแต่วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙ ว่า ยุติไปแล้ว ไม่สามารถรื้นฟื้นได้อีกแล้ว.
..............
- มาวันนี้ ผ่านไปกว่า ๑ เดือน แล้ว
- แต่ท่าน สุวพันธุ์ กลับมาบอกว่า ......
"มส. ทำไมนิ่ง ทั้งที่มีปัญหา เช่น กรณีธัมมชโย"
- ขอสั้น ๆ นะครับ
- ก็เสร็จกัน คิดได้แค่นี้ วนไปวนมาแบบนี้.
.............
คำพูดที่ ๓.
- เรื่อง ของ พุทธอิสระ ที่มีคนเข้าใจว่า มีแบ็คหนุนหลังนั้น.
...........
- ท่านสุวพันธุ์ท่านว่า.....
"พูดจริง ๆ นะ ไม่มีหรอก พูดและเขียนกันไปเอง ผมอยู่ตรงนี้ กล้ายืนยัน".
..............
- อ้าว .....แล้วตรงนี้นะ มันตรงไหนครับ.
- แล้วถ้าหากมีคนมาถามท่านว่า ......
"ก็แล้วทำไม ตัวท่าน สุวพันธุ์ จึงมายืนยัน ท่านไปเกี่ยวอะไรกับเขา" .
...............
- ท่านสุวพันธุ์ ออกมายืนยัน หรือเคลียแทน พุทธอิสระ
- หรือมายืนยันแทนรัฐบาล หรือมายืนยันเพื่อทำให้ มส. มีแนวทางในการแก้ปัญหา หรือแค่ให้สังคมสบายใจ.
- ท่านก็ตอบสังคมเอาเองนะครับ.
.............
- แต่ตรงนี้ ทุกสายรายงานตรงกันว่า
"พวกเขาไม่เชื่ออย่างที่ท่านสุวพันธุ์พูดครั้งนี้ครับ".
..............................
คำพูดที่ ๔
- ท่านสุวพันธุ์ว่า
"ในกรณีที่ทุกท่านมองว่า พุทธอิสระ มีปัญหา แล้วทำไม (มส.) นิ่งเฉยละ"
- ขอถามกลับท่านสุวพันธุ์ว่า
"หรือตัวท่านมองว่า พุทธอิสระ ไม่มีปัญหาหรือครับ".
.....................
- ท่านสุวพันธุ์ พูดต่อไปว่า......
"ตรงนี้แหละ ผมต้อง หาเวลา คุยกับ มส. เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น".
...................
- ผมว่าการที่ท่าน สุวพันธุ์ จะไปคุยกับ มส. น่ะ.
- ขอให้ท่านไปคุยกันเองในรัฐบาลดีมัยครับว่า.....
- ปัญหาพุทธอิสระนี้ ทำไม เจ้าคุณสุวิทย์ แห่ง วัดพระราม ๙ จึงพูดว่า ......
"คนถือหอกเหล่านี้ ทำอะไรก็ได้ ทำอะไร ก็ไม่เคยผิด"
- แค่คำสะท้อนตรงนี้ ก็น่าจะมีคำตอบแล้ว ว่า สังคม เขาคิดอย่างไงเกี่ยวกับพุทธอิสระ และพวกแล้วครับ.
- อีกอย่าง ก็ในเมื่อท่านกำกับ มส. อยู่แล้ว ทำไมไม่หาทางนำกฏหมายคณะสงฆ์ และกฏ มส. มาบังคับใช้กับพุทธอิสระ บ้างละครับ.
...........
คำพูดที่ ๕
- ทีเด็ดเลยครับงานนี้ ท่านสุวพันธุ์ บอกว่า .....
"ปัญหาเหล่านี้ ผมได้มอบให้ สนช. ชุด คุณไพบูลย์ ไปทำ"
จบกันเลยครับ จบเห่เลยงานนี้.....
....................
- ถึงว่าซิครับ ว่า ปัญหาสงฆ์ มันทำไม่จบ ไม่ยุติสักที
ผมไม่อยากขยายแล้วตรงนี้ ถามท่านกลับว่า....
"ท่านไม่รู้จริง ๆ หรือครับว่า ชาวพุทธ ชาวพระทั่วประเทศ
เขามองคุณไพบูลย์แกว่าอย่างไร"
- ถ้ายังไม้รู้ ไม่ทราบ ก็จบกันแหละครับงานนี้.
..............
คำพูดที่ ๖
- คำพูดนี้ ท่านสุวพันธุ์ว่า
"ตามที่ มส. ตั้ง ๓ กรรมการ มส. มาประสานนั้น สรูปดีมาก แต่ยังไม่โดนใจ" .
...............
- ถึงตรงนี้ ผมว่า การแก้ปัญหาสงฆ์ มองไปแล้ว น่าจะถึงชาติหน้าหรือเปล่าครับ จึงยุติได้.
...............
- เพราะทั้ง ๓ มส. ท่านนี้ ท่านเป็นสุดยอด เป็นระดับมันสมอง ของ ของ มส. เป็นผู้รับผิดชอบ คณะสงฆ์ไทยเลยครับ
ท่านเหล่านี้คือ ......
เจ้าคุณพรหมโมลี แม่กองบาลี เจ้าคุณพรหมบัณฑิต อธิการ มจร. และ เจ้าคุณพรหมมุนี เลขาฝ่ายธรรมยุต.
- ก็ถ้า ๓ รูปนี้ "ยังเสนอไม่โดนใจ" ท่านสุวพันธุ์
ท่านจะหาพระสัพพัญญูที่ไหนครับ.
- หรือท่านจะไปเอา พุทธอิสระ มาตั้งโจทย์กันอย่างนั้นหรือ หรือจะไปเอาเกณฑ์มาตรฐานพระป่า มาบริหารงานคณะสงฆ์.
- ท่านตีโจทย์บุคคล คุณสมบัติบุคคลให้ถูกนะครับท่าน.
- บอกตรง ๆ เป็นห่วงท่านจริง ๆ ครับงานนี้.
...............
คำพูดที่ ๗
- อันนี้เรื่องใหญ่เลย ท่าน สุวพันธุ์ ว่า ......
"ตัวท่าน สุวพันธุ์ ไม่ไม่เชื่อว่า มุสลิมเป็นภัยต่อพระพุทธศาสนา"
- ท่านสุวพันธุ์ว่า "ไม่จริง" และว่าต่อว่า .....
"พวกท่านกลัวกันไปเองหรือเปล่า".
.....................
- ตรงนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผมจะขอผ่านก่อนนะครับ.
- แต่ให้รู้ว่า ระดับอดีต ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ อย่างตัวท่าน หรือครับที่.....
" จะไม่รู้ว่า อะไร คืออะไร ในบ้านเมืองนี้".
...........................
- ท่านพูดแบบนี้ ท่านคิดหรือไม่ว่า....
"ใครจะไปเชื่อท่าน"
- เรื่องแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ต้องไปปฏิบัติครับ ลับด้วย
- ไม่ใช้หยิบมาพูดในที่สาธารณะเช่นนี้ได้ พูดออกมาไม่ได้นะครับ.
- ผ่านเลยนะครับ.
..............
คำพูดที่ ๘ (ขอเป็นข้อสุดท้ายก่อนนะครับ)
- คำพูดของท่าน สุวพันธุ์ คำนี้ บอกได้เลยว่า...
"เหมือนสาดน้ำมันเข้ากองเพลิงที่กำลังลุกอยู่ ให้หนักเข้าไปอีก"
- ท่านสุวพันธุ์ พูดว่า....
"เออ...ผมถามจริง ๆ เถอะว่า
"ธรรมกาย เป็นภัย ต่อความมั่นคงมัย".
................
- ผมถามว่า ผู้คนที่ศรัทธาสายวัดพระธรรมกาย ทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก เป็นจำนวนหลาย ๆ ล้าน ๆ นี่.
- เขาจะคิดอย่างไงครับท่าน เมื่อได้ยินคำพูด คำถามของท่านแบบนี้.
- ผลเป็นประการใด ผมไม่ต้องตอบ ท่านก็ไม่ต้องตอบ ใครก็ไม่ต้องตอบ ให้สถานการณ์มันตอบเองก็แล้วกันครับ.
...................
- ตรงนี้ อ. บรรณจบ ตอบทันทีว่า "ไม่เป็น".
..................................
- กรณีธรรมกายนี้ สุดบรรยายเลยครับ โอ้..ท่านสุวพันธุ์ ทำไมท่านถามออกมาแบบนี้.
- ในใจท่านคิดอะไรอยู่ ถามต่อจากประเด็น มุสลิมเสียด้วย.
- หรือท่านสุวพันธุ์ ท่าน จะมองว่า ปัญหาธรรรมกาย กับปัญหาสลิม เหมือนกันมิติไหนหรือไงครับ.
............
- หรือไม่อย่างนั้น ทำไมท่านจึงรีบปฏิเสธให้กับมุสลิมว่า
"ไม่จริง คิดกันไปเอง".
- ส่วนปัญหาธรรมกายนั้นท่านกลับมาเน้นว่า......
"ถามจริง เถอะว่า เป็นภัย ต่อความมั่นคงมัย".
- งงกันทั้งโลกเลยละครับ งานนี้.
......................
- ท่านกำลัง คิดอะไร อยู่ในใจหรือครับท่าน สุวพันธุ์
- อดีตท่านคือ ผอ. สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ท่านหยิบเรื่องนี้ มากล่าวแบบนี้.
- มันหมายถึงอะไรครับ บ้านเมืองเรา มองปัญหากลับด้านหรือเปล่าครับ.
.........................................
- คำพูดทั้งหมด ๘ ข้อที่ผมพยายามสรูป และยกมาขยายนี้
- ตัวผมเอง กล้ายืนยันได้ว่า
ไม่มีเจตนาร้ายต่อใคร ๆ ทั้งสิ้น ทั้งสังคม ทั้งชาวพุทธ ชาวมุสลิม และฝ่ายถือข้างใด ๆ รวมทั้งตัวท่าน สุวพันธุ์ ด้วย.
..........................
- โดยเฉพาะท่าน สุวพันธุ์ ที่ผมมองแกว่า ......
- แกเหมือคนโบราณ ที่ดูดุนอก แต่เมตตาใน
- ซ้ำในข้างต้นแกก็ยังบอกว่า ......
"แกกราบหลวงพ่อวัดปากน้ำ ด้วยความสนิทใจ"
- ตรงนี้ชาวพุทธฟังแล้วชื่นใจครับ.
......................
- แต่ที่ผมพรรณนามาทั้งหมดยืดยาวนี้
ก็เพื่อต้องการชี้ให้เห็นว่า .......
"ถ้าระดับผู้นำ ผู้ปกครอง สังคม โดยรวมก็คือรัฐบาลนะแหละ
ที่รับผิดชอบในการแก้ปัญหาสงฆ์โดยตรง
ถ้าหากพวกท่านคิดอย่างนี้ พูดอย่างนี้ ทำอย่างนี้ละก็".
.........................
- ปัญหาสังคม ปัญหาบ้านเมือง ปัญหาสงฆ์ บอกได้คำเดียวว่า
"ริบหรี่เลยครับ".
..............
- วันก่อน รำพังฟังคำพูดท่านสุวพันธุ์ พูดแล้ว ว่า เย็นถึงกระดูกในเข้าไปแล้ว.
.................
- มาวันนี้ แทบเขียนไม่ไหวกับข่่าว
- รายงานข่าวว่า ดร. วิษณุ เครืองาม ย้ำคุณลักษณะพิเศษ ของ ท่าน สุวพันธุ์ ว่า......
"นายสุวพันธุ์ เป็นคนพูดเก่ง ถึงแม้จะพูดน้อย
แต่เมื่อพูดแล้ว มีเหตุ มีผล ไม่ได้พูดเรื่อยเปื่อย".
- พอได้ยิน ดร. วิษณุ ออกมาพูดรับรองท่าน สุวพันธุ์ ไว้แบบนี้แล้ว.....
- ทำให้ผมอยากจะโปรโมทตัวเองขึ้นมาจริง ๆ ว่า ....
"ฉันเป็นโพธิสัตว์ นี้เป็นชาติสุดท้าย ไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว"
- ให้ตายซีครับผม มันคิดปนกันได้ไงไม่รู้ครับ.
..............
- ผมไม่อยากจะพูดมากไปกว่านี้ เดียวจะท้อแท้กันไปใหญ่
โพสต์ครั้งนี้ ขอจบแค่นี้ก่อนนะครับ.
....................
- ก่อนจบ ขอฝากไว้เป็นคติธรรมครับว่า....
- อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไร้ตัวตน.
- สรรพสิ่ง มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นธรรมดา.
- ดี - ชั่ว เท่านั้น ที่จะติดตามเราไปทุกภพทุกชาติได้.
โชคดีมีชัยครับผม
เจ้าคุณเบอร์ลิน.
24.02.2016
แนบ นสพ. ข่าวสด.




วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

"นายว่า ขี้ข้าพลอย" คำกล่าวสุดรุนแรง ของ พุทธอิสระ : ปลายหอกพุ่งใส่อก คณะสงฆ์ ฝ่ายธรรมยุต.

"นายว่า ขี้ข้าพลอย" คำกล่าวสุดรุนแรง ของ พุทธอิสระ :

ปลายหอกพุ่งใส่อก คณะสงฆ์ ฝ่ายธรรมยุต.

 .....................

- สืบเนื่องจากกรณีในวงเสวนา เรื่อง ......
"ทิศทางพระพุทธศาสนา ในสถานการณ์ปัจจุบัน"
ของ มมร. หรือ มหาวิทยาลัย มหามกุฎราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงฆ์ แห่ง ธรรมยุตนิกาย.
- ซึ่งตั้งยู่ที่ วัดบวรนิเวศ กทม.
โดยไปจัดที่ มมร. ศาลายา นครปฐม เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ที่ผ่านมานั้น.
...................
- องค์เสวนา มี ......
๑. พระเทพวิสุทธิกวี (เจ้าคุณเกษม ปธ. ๙) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชาธิวาส กทม.
๒. พระราชญาณกวี (สุวิทย์ ปธ.๙) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพระราม ๙ กทม.
เป็นองค์เสวนาในวันนั้น.
.......................................
- เนื้อหารายละเอียดมีปรากฏตาม นสพ. ทั่วไปอยู่แล้วครับ
ในส่วนของผม "เจ้าคุณเบอร์ลิน"
ก็ได้สรูปรายงานมา ให้ทราบกันไปแล้ว ในวันนั้นครับ.
....................
- ในโพสต์วันนั้น ก่อนที่ผมจะพูดถึงเรื่องของการเสวนา ในวันนั้น
- ผมได้นำเอาสรรพคุณ คุณสมบัติ ขององค์เสวนาในวันนั้น มาแจ้งให้ทราบไว้ด้วย.
- โดยเฉพาะเน้นไปที่ เจ้าคุณ พระราชญาณกวี หรือ เจ้าคุณสุวิทย์ วัดพระราม ๙.
- เพราะเจ้าคุณเกษมนั้น ถ้าเป็นนักมวย ก็เข็มขัดแชมป์หลายเส้น ของราชดำเนิน หรือ ลุมพินี แทบไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ.
.........
- ผมจึงมาเน้นที่ เจ้าคุณสุวิทย์ ว่าท่าน เป็นใคร มาจากไหน สรรพคุณ มีดีอะไีรบ้าง.
- โดยคาดเดาว่า "พุทธอิสระ" ต้องเล่นเจ้าคุณสุวิทย์แน่ ๆ
- ขนาดผมย้ำว่า เจ้าคุณสุวิทย์ รูปนี้
- ท่านบวชแต่สามเณร อายุ ๑๒ ปี
- เป็นพระสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต เคยประจำอยู่อยู่วัดบวร มาก่อน
- ก่อนที่จะไปเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม ๙
- สำเร็จเป็นเปรียญธรรม ๙ ประโยค
- มีสมเด็จพระญาณสังวร ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ให้
- สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ
ทรงพระราชทานถวายทุนให้ไปศึกษาที่
มหาวิทยาลัยลอนดอน จนจบปริญญาโท
- ทั้งยังเป็นผู้ตั้งศูนย์ พุทธศาสนศึกษา ที่มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด
- ที่สำคัญยังเป็นอดีต ผู้ช่วยเลขานุการ
สมเด็จพระสังฆราช (สมเด็จญาณ) อีกด้วย.
......................
- ขนาดผมบรรยายสรรพคุณ ละเอียดของเจ้าคุณสุวิทย์
ไว้ขนาดนี้แล้ว กันทุกช่องก็แล้ว
จะคอยดูว่า "อีกฝ่าย จะหาช่องไหนหยิบมาว่าได้".
.................
- แต่ "พุทธอิสระ"
- แกก็สามารถหาข้อมากล่าวกับเจ้าคุณสุวิทย์จนได้ อย่างน่าทึ่ง
สมกับเป็น ยอดอัจฉริยะ ด้านนี้จริง ๆ.
- แถมพ่นด้วยถ้อยคำที่สุดรุนแรง ชนิดไม่น่าเชื่อว่า
คนถือเพศสมณะขนาดนี้ จะมีคำกล่าวเช่นนี้ออกมาได้.....
"นายว่า ขี้ข้าพลอย ๑." "ขุนพลอยพยัก ๑"
- สุดยอดสรรหาคำทุจริต มากล่าวได้เยี่ยมจริง ๆ ท่านพุทธอิสระ.
(อ่านโพสต์ พุทธอิสระ ที่แนบมาด้วยแล้วนี้ประกอบด้วยนะครับ).
...............
ประโยคต่อประโยค..
ประการที่ ๑
- ประโยคแรกกล่าวหาว่า เจ้าคุณวัดพระราม ๙
ให้สัมภาษณ์เพื่อปกป้อง สมเด็จช่วง นั้น
ดูชั่งมันไร้น้ำหนักจังนะครับ
เพราะว่า ......
- ในเบื้องต้นนั้น ถ้า พุทธอิสระ รู้จักแวดวงสงฆ์คณะธรรมยุตดีดังที่อ้างจริงแล้ว
- คุณก็จะทราบดีว่า ชื่อเสียง ชื่อชั้น ของ เจ้าคุณสุวิทย์ รูปนี้ ไม่ธรรมดา
- ถือว่าท่านเป็นเพชรเม็ดหนึ่ง ของคณะธรรมยุตเขาเลยที่เดียว
- พร้อมไปด้วยวัตร คุณวุฒิ และผลงานการเผยแพร่
ไม่เชื่อไปสืบดู.
...................
- ตรงนี้ผมอยากจะเตือน พุทธอิสระ ว่า .....
- อันตัว พุทธอิสระ นั้น สังกัด มหานิกาย แต่ไปมักอ้างไปสร้างความเสื่อมเสีย ความเดือดร้อน ให้แก่ คณะธรรมยุต มาต่อเนื่อง
คณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต ระดับ กรรมการมหาเถรสมาคม
ท่านหนึ่งได้ปรารภ บ่นกับผม มาว่า.....
"คณะธรรมยุติเขาระอา "พุทธอิสระ" มาก"
"ทั้งยังตั้งคำถามว่า ทำไม ทางมหานิกาย จึงไม่จัดการอะไร กับ
พุทธอิสระ
ปล่อยให้ทำความเสียหายแก่คณะธรรมยุต และพระศาสนาได้
อย่างไร"
- นี่คือคำปรารภที่ผมฟังมาเต็มหูนานแล้วครับ เขาเริ่มจะทนไม่ไหวกันแล้ว.
- พุทธอิสระ ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ แต่บอกมาซิครับ ว่า
"พระธรรมยุต รูปไหน วัดไหน เขาเอากับคุณบ้าง".
....................
- กรณี เจ้าคุณสุวิทย์ ออกมาพูดครั้งนี้ นั้น ...
- ก็ทำไม พุทธอิสระ ไม่ใช้สติปัญญา คิดทางบวก บ้างละครับว่า...
- เขาพูดเพื่อ รักษาพระธรรมวินัย รักษากฏหมาย รักษาความถูกต้อง เพื่อพระศาสนา.
- ไม่ใช่เพื่อสมเด็จ รูปใด รูปหนึ่ง อย่างที่ ท่านพุทธอิสระ คิด.
................
ประการที่ ๒
- การกล่าวหาว่า เจ้าคุณสุวิทย์ ไม่รู้อะไร ให้อยู่เฉย ๆ ดีกว่า พร้อมบอกว่า ......
- อย่าทำตัวเป็น "นายว่า ขี้ข้าพลอย / ขุนพลอยพยัก"
คือสำนวนไทยง่าย ๆ ว่า "เลียนายว่างั้นเถอะ"
สุดรุนแรงนะครับคำนี้ น่าไม่หลุดออกมาเลยนะครับ.
....................
- พร้อมตั้งคำถามยาวเหยียด เหมือนอัดอั้นตันใจ แถมทำนองหยาม ๆ ไว้ด้วยว่า...
"เจ้าคุณจะรู้อะไร"
หรือ ทำนองหยัน ๆ ว่า "หรือว่า ลาภยศ สรรเสริญ ปิดหูปิดตา" ไปโน้น.
..........
- ผมว่าคำถามเหล่านี้ น่าจะหันทิศกลับไปถาม ตัว พุทธอิสระ
เสียเอง จะถูกต้องกว่านะครับ ทำไมผมจึงพูดงี้...
ก็เพราะว่า ...
หัวข้อที่ ๑.
- พระรูปที่มีสมเด็จพระญาณสัวร เป็นพระอุปัชฌาย์ องค์นี้หรือครับ
- ที่จะไม่รู้เรื่องระเบียบ "ธรรมยุต"
และเรื่องราวของอดีตผู้บังคัญบัญชา ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์อาจารย์ตน
- ทั้งยังเป็นร่วม นิกายธรรมยุต เช่นเดียวกันด้วย.
............
หัวข้อที่ ๒.
- พระรูปที่เป็นเปรียญธรรม ๙ ประโยค ซึ่งถือว่า
เป็นระดับการศึกษาขั้นสูงสุดของคณะสงฆ์ไทย นี้ หรือครับ
ที่ท่าน จะไม่รู้เรื่องพระวินัยบัญญัติ ว่า ไหน ปาราชิก
ไหน สังฆาทิเสส ไหน การโจทย์
ไหน นานาสังวาส ไหน เสมอสังวาส.
..................
หัวข้อที่ ๓.
- พระรูปที่เป็นถึง อดีตผู้ช่วยเลขานุการ ขององค์อดีต
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จสังฆราช
ผู้ทรงเป็น ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม รูปนี้หรือครับ .....
- ที่พุทธอิสระมาบอก มาถาม ว่า ......
- ไม่รู้การบริหารงานคณะสงฆ์ และปัญหาคณะสงฆ์
- ไม่รู้อะไรให้อยู่เฉย ๆ ดีกว่า
- เป็นผู้สำคัญพวกมากกว่าพระธรรมวินัย เป็นธรรมยุตได้อย่างไง
- ไม่รู้เรื่องพวกนี้ ฯ.
- สุดท้ายทำนองกล่าวหาว่า.....
"หรือยศ อำนาจ ลาภสักการะ มันบังตา บังใจ ช่างน่าสมเพชจริง ๆ".
นี่คือข้อความ ที่อยู่ในโพสต์ของพุทธอิสระที่แนบมา.
............
สรูป
- ตามทีี่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนี้ คือ....
- ระหว่าง.....
- พระผู้มีคุณสมบัติ เป็นพระราชาคณะ ชั้น "ราช" เปรียญ ธรรม ๙ ประโยค ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพระราม ๙ กทม.
- ที่สำคัญเป็น อดีต ผู้ช่วยเลขานุการ
อดีต สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระญาณสังวร
- ที่ชื่อ พระราชญาณกวี (มีคำว่า ญาณ อยู่ด้วย) ด้วยนั้น.
- กับ..... ผู้ทีี่อ้างชื่อว่า.....
พุทธอิสระ ผู้มีสรรพคุณสารพัด ที่พระสงฆ์ไทยทั้งประเทศเขาไม่มีกัน และเด่นดัง ในสังคมในปัจจุบันนั้น.
..................
- ผมจะไม่สรูปเรื่องนี้ แต่ผมจะให้ท่านผู้อ่าน เอาไปคิดกันเองนะครับว่า .....
" คำกล่าวนี้ คำถามนี้ คำสงสัยนี้ คำหยามนี้"
ว่า.....
- ควรตั้งไปยัง เจ้าคุณสุวิทย์ วัดพระราม ๙ หรือ
- ถามกลับไปยังตัว พระสุวิทย์ พุทธอิสระ เสียเองกันแน่ครับผม.

โชคดีมีชัยทุกท่านครับ.
เจ้าคุณเบอร์ลิน
23.02.2016
แนบโพสต์ พุทธอิสระ