วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เจ้าคุณเบอร์ลิน สอนเคล็ดวิชา พศ. ตอกกลับพวกป่วนสงฆ์รายวัน.


 กราบขอบพระคุณแทนชาวพุทธทั่วประเทศเจ้าค่ะ

เจ้าคุณเบอร์ลิน สอนเคล็ดวิชา พศ. ตอกกลับพวกป่วนสงฆ์รายวัน.

 

 ........

จริง ๆ วันนี้ ผมกะจะพักสักวัน
เพราะตรงกับวันตรุษจีนครับ
แต่ทางไทยส่งข่าวมาให้พิจารณา 2 ข่าว สำคัญ
ผมเห็นว่า น่าสนใจที่จะหยิบมาพูดคุยตรงนี้กับสังคมได้
จึงนำเอามาขยายประดับปัญญากันนะครับ.
.....
เริ่มเรื่อง
ข่าวที่ 1. คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ไปยื่น ปปช. ให้ตรวจสอบ การหน้าที่ของ สำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน.
ข่าวที่ 2. คุณไพบูลย์ นิติตะวัน กับเมตตานันโท ไปยืนแถลงข่าวที่รัฐสภา
ขู่จะฟ้อง ม.157 ต่อ พศ. ในฐานละเว้น หากไม่ทำตามหนังสือ DSI. ที่แจ้งไป กรณีธัมมชโย.
......
เมื่อได้ข่าวมา ผมจึงจั่วหัวข้อข้างต้นครับ
ครั้งนี้ ผมต้องการจะแนะเคล็ดลับวิชา การทำงานเชิงรุกให้กับ พศ. ซึ่งผมคิดว่า
ต่อจากนี้ไป พศ. ไม่ควรทำงานแบบตั้งรับเหมือนที่ผ่านมาแล้วครับ
ต้องรุกกลับโต้กลับแล้วละครับ เพราะหากยังตั้งรับแบบนี้เรื่อย ๆ
ทำไปทำมาเดียวเขาก็เผาบ้านจริง ๆ สักวันจนได้.
........
ข่าวที่ 1. ของคุณเรืองไกรนั้น ไม่ต้องพูดถึงเนื้อข่าว เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาขยายความ จึงขอผ่านไปครับ
จุดสำคัญตรงนี้ ก็คือ
เรื่องฮอต และสร้างความสับสนแคลงความสงสัยของคนในสังคมตอนนี้ ก็คือ
พฤติกรรมของกลุ่มก๊วนปั่นเมืองที่แอบอ้างศาสนาบังหน้า ซึ่งผมคงไม่ต้องเอ่ยชื่อให้รกหู
ที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดปั่นป่วนสังคมสักทีนั้น
ก็ยังคงเตะมือ ออกตะลอนเดินสาย ไปยื่นเรื่องร้องเรียนยังหน่วยงานต่าง ๆ เรื่อย
ทั้งยังมาเร่งรัด แถมขู่รายวันว่าจะใช้ ม. 157 กับ มส. และ พศ. ดังที่ทราบกัน
ตรงนี้ผมอยากจะแนะเคล็ดวิชาในการทำงานเชิงรุกให้แก่ พศ. ว่า
ให้ใช้วิชาอย่างคุณเรืองไกร คือ
ให้ พศ. สั่งให้ จนท. ได้รวบรวมข้อมูลที่ทำให้ มส. พศ. เสียหายนั้น
นำไปยื่นเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เข้าไปตรวจสอบกับหน่วยงานที่โง่แล้วขยัน ทั้งยังเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของตนเองด้วย
ส่วนจะมีหน่วยไหนบ้าง ผมคงไม่ต้องบอกนะครับ
ที่ชัด ๆ ก็คือ ไอ้หน่วยงานที่ตัวมันเป็นคนธรรมดา ดันหลงตัวเองว่าเป็นพระลึกเข้าไปทุกวัน
แถมตั้งธงจะทำหน้าที่พระเสียเอง เที่ยวชี้นั่นสั่งให้ มส. พศ. ทำตามมั่วไปหมดทุกวี่ทุกวันนั้นแหละ เร็วเลยครับ
อีกหน่วยก็คือ ที่มีนักกฏหมายน่าโง่ จะยื่นตีความกฏหมาย แทนที่จะไปยื่นที่กฤษฎีกา ผ่าไปยื่นไหนก็ไม่รู้นะแหละอีกที่
อีกสารพัดที่ ที่มันตะลอนยื่น
พศ. ก็ยื่นตรวจสอบย้อนเกร็ดให้หมดเลยครับ
แค่มีผู้ยื่น มีผู้มารับเรื่อง
ก็ชอบที่ พศ. จะยื่นตรวจสอบย้อนได้แล้วครับ
ผมจะรอดู พศ. จะคิดได้มัยแบบนี้.
......
ข่าวที่ 2 คือ คุณไพบูลย์ และ เมตตานันโท ตามภาพ และข่าว วันนี้ ว่า....
ได้พากันไปยืนแถลงข่าวให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา
ซึ่งเป็นที่ที่ในทุกครั้งที่ให้สัมภาษณ์สื่อ
ข่าวก็จะรายงานว่าจากรัฐสภาไทย
ตรงนี้ มีคนตั้งข้อสังเกตว่า
ในปัจจุบันนี้ ทั้งคุณไพบูลย์ และเมตตานันโทนั่น
"มีตำแหน่งหน้าที่อะไร หรือเกี่ยวข้องอะไรที่รัฐสภาครับ"
หรือว่า ที่ ๆ ตรงนี้ ใครจะไปใช้ยืนแถลงอะไรก็ได้
ถ้าไม่มีระเบียบข้อห้ามอะไรไว้
ผมจะได้บอกให้พระหนุ่มเณรน้อยทั่วประเทศ
ให้ไปยื่นเทศน์ธรรมะตรงนี้ทุก ๆ เช้านะครับ
เจ้าของสถานที่ช่วยแจงทีครับ.
....
ก่อนอื่น กับ คุณไพบูลย์นี่
แกหายหน้าไปหลายวันครับ
กับตัวผมเองนั่น หลังแกออกมาขู่ผม จนทำให้ผมดังไปทั่วประเทศว่าแกจะฟ้องศาลต่อผมคราวนั้น
ถึงวันนี้ แกก็ไม่ได้ฟ้องอะไรผม
ก็ต้องถือว่าแกมีคุณกับผมอยู่บ้าง
เพราะว่าไปแกก็มีส่วนดี ทำให้ผมมีชื่อไปอยู่ในสาระบบการให้ความคุ้มครอง
ที่กระทรวงต่างประเทศเยอรมัน และผบ. ตร. กรุงเบอร์ลิน
ผมเองก็คิดว่า จากนี้จะไม่ด่าอะไรแกแล้ว ทางใครทางมัน
ต่อไปก็สู้กันด้วยสติปัญญากันไป
วันนี้ ผมก็จะพูดสุภาพ ใช้เหตุผลกับแกครับ
แต่นี่ไม่ใช่มาออดอ้อนอะไรแก
อย่างที่คนแถวอ้อน้อยถากถางผมไว้นะครับ
มันคนละเรื่อง.
.......
ข่าวคุณไพบูลย์ที่ถูกส่งมาจากไทยถึงผมนั้น
ได้แนบข้อความแบบตั้งข้อสังเกตมาว่า
"อาจสอดรับกับ DSI ที่จะไป พศ. ใช่หรือไม่"
ก็ลองติดตามดูครับว่า
จะเป็นไปอย่างสายข่าวที่ตั้งข้อสังเกตหรือไม่ ติดตามต่อไป.
......
มาจุดสำคัญที่ผมจะแนะนำแก่ พศ.ในการแก้ลำพวกมั่วง่าย ๆ
นั่นคือ
คำว่า "พระลิขิต" นั้น ไม่ปรากฏแม้แต่แห่งเดียว กับ กรณีธัมมชโย"
ตั้งแต่วัดบวร ก็เป็น "พระวินิจฉัย"
เดินมาถึง พศ. และ ในมติ มส. ก็ปรากฎแต่คำว่า "พระดำริ"
มีเพียงคำ 2 คำนี้ เท่านั้นในสาระบบราชการของหน่วยงาน พศ. และ มส.
ดังนั้น ต่อจากนี้ไป
ไม่ว่าหน่วยงานไหนก็ตาม หรือ ไอ้หน้าปลาจรวดที่ไหนในโลกา
เดินทะเล่อทะล่า มาติดต่อใด ๆกับ พศ.
หากหลุดคำว่า..
"พระลิขิต" ปรากฎอยู่
จะในเอกสารหรือคำพูดก็ตาม
ก็สั่งให้ จนท. ยกน้ำชามาเสริฟ และก็แนะให้ไปไหว้พระยืนองค์ใหญ่ในพุทธมณฑล แล้วให้เขากลับบ้านไปเถอะครับ.
ด้วยเหตุผลเบื้องต้นนะแหละครับ
.....
อ้าว.... อย่าทำเป็นเล่นไปนะครับ
หาก พศ. หลุดใช้คำว่า "พระลิขิต" ออกมาเมื่อใด
นอกจากจะไม่เกี่ยวเรื่องนี้แล้ว
พศ. อาจจะผิดเสียเองนะครับ
ทำเป็นเล่นไป
ทั้ง DSI และแม้แต่คุณไพบูลย์ที่แกแถลงวันนี้
ก็ยัง "พระลิขิต ๆ" อยู่นั้นแหละ.
.....
จะตรง ๆ ก็ได้ คือ คำนี้บัญญัติเริ่มต้นทางมาจาก "พุทธอิสระ"
เอามาใช้ผิด ๆ จนสังคมสับสน
ที่สำคัญแม้แต่หน่วยงานใหญ่ ๆ ของรัฐ ยังฮุบเหยื่อรอปากฉีกระนาว
เพราะนอกจากไม่มีอำนาจหน้าที่แล้ว
ยังใช้คำที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้มาตลอดอีกด้วย.
.......
มีข่าวฝากจาก พศ. ว่า ที่ขู่รายวันว่า จะใช้ ม. 157 ฐานละเว้นนั้น
ใครชอบขู่ ก็ไว ๆ นะครับ อย่ามัวช้า กลัวตายเลย นี่เขาฝากมา.
.....
สรูป
ในโพสต์ครั้งหน้า ผมมีทีเด็ดครับ
อาจะต้องถึงเวลาแตกหัก และจบปัญหาเรื่องนี้กันสักทีก็ได้
เพราะหากปล่อยให้ยืดเยื้อมากกว่านี้
ยิ่งนานพระศาสนายิ่งช้ำ มส. ยิ่งเจ็บ
ผมกะจะโชว์หลักฐานที่ไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อนในโลกใบนี้
ที่สำคัญ "หัวกระดาษ" ไม่มีทั้ง พระวินิจฉัย พระดำริ พระลิขิต ใด ๆ ทั้งสิ้น
งานนึ้ อาจมีน๊อคกันเลยครับ
จะมาเป็นชุดเลยครับ
แม้แต่แผ่นที่ไอ้พระแสบมันถือไปยื่นที่ประชุม มส. ให้ตั้งมันเป็น กรรมการ มส.โดยแอบอ้างนี้ ด้วย
เอกสารชุดนี้ หลายคนอยากให้สูญไปจากโลกนี้
แต่ก็เป็นบุญของประเทศครับ
ที่จะได้รักษาสังฆมณฑลในแผ่นดินไทยให้ยืนยาวนานครบ 5000 ปี
ทั้งปวงนี้ เป็นเพราะพระคุณอันยิ่งใหญ่ของท่านบูรพาจารย์ของพวกเราครับ ที่ท่านมองการณ์ไกล ได้เก็บเอกสารชุดนี้ไว้อย่างดี
ทั้งหมดถูกเก็บไว้ที่เบอร์ลินแล้วครับ
ไว้ชำระล้างเหลือบพระศาสนา
เอกสารเหล่านี้ อาจทำให้แผนเผาพระศาสนาของแก๊งค์ชั่วทุกวันนี้จบเร็ว ก็ได้ครับ
หลุมใครหลุมมันแหละครับงานนี้
คำเตือน...
คนเป็นโรคหัวใจ โปรดระวัง หรืองดอ่านโพสต์หน้า และอย่ากระพลิบตาเด็ดขาดนะครับ.

โชคดีทุกท่านครับ
เจ้าคุณเบอร์ลิน
08.02.2016
ข่าวแนบ คุณไพบูลย์


10 ความคิดเห็น:

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  3. คนดีๆ ที่ทำเพื่อพระธรรมวินีย ยังมีอยู่อีกมาก

    ตอบลบ