วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

หรือว่า ปัญหาสงฆ์ อยู่ที่ ท่านสุวพันธ์ุ เสียเอง.

หรือว่า ปัญหาสงฆ์ อยู่ที่ ท่านสุวพันธ์ุ เสียเอง.


.....................
- โพสต์ย้อนหลังไปหนึ่งโพสต์ ผมได้พูดถึงท่าน สุวพันธ์
รัฐมนตรีที่กำกับดูแล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ.
- ซึ่งผมได้นำเอาสาระสำคัญ ในการเปิดอกพูดคุย ปัญหาสงฆ์ในสถานการณ์ปัจจุบัน กับ กลุ่ม เปรียญธรรม ๙ ประโยค
นำโดย ดร. บรรจบ บรรณรุจิ ที่ พุทธมณฑล
เมื่อวันมาฆูชา ๒๒ กพ. ที่ผ่านมา มาโพสต์ให้ทราบกันไปแล้ว.
..................
- ในโพสต์ครั้งนั้น ผมจั่วหัวข้อว่า
"สุวพันธ์ุ ยันหนักแน่น ไม่มีแบ็คหนุ่นพุทธอิสระ".
........................
- โดยผมได้พยายามสรูปหัวข้อ ที่อาจเรียกว่า "ข้อมูลดิบ"
ที่ยังไม่ได้ส่งถึงสื่อมาให้อ่านกันเลย.
- เพราะคนที่บันทึกส่งมาให้ผมนั้น ก็ร่วมอยู่ในวงการสนทนาน
ครั้งนั้นด้วย.
...................
- ซึ่งวันนั้น ผมก็ยังไม่ได้ แสดงหรือวิจารณ์คำพูดของ
ท่าน สุวพันธ์ุ ไว้ในโพสต์.
- เพราะนั่นเป็นเจตนาของผมเอง ด้วยเหตุผลว่า.....
- สื่อจะรายงานเรื่องนี้ออกไปในทิศทางเช่นไร
- เมื่อโพสต์ออกไปแล้ว ผู้อ่านจะแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ คำพูดนี้อย่างไร.
............................
- ซึ่งก็ได้ผลสรูปแล้วครับว่า.....
- สื่อไม่ได้รายงานตรงประเด็นนัก ซึ่งก็เป็นอันเข้าใจได้ ในสถานการณ์ที่บ้านเมืองเราไม่ปกติเช่นนี้.
................
- แต่ผู้คนในสังคมก็สงสัยว่า.....
- ทำไมคำพูดสำคัญ ๆ ของ ท่านสุวพันธ์ุ ที่พูดในวงสนทนาครั้งนี้ จึงถูกสื่อมองข้ามไป.
- ในส่วนผู้อ่านโพสต์นั้น ส่วนมาก ก็ไม่เชื่อ และก็ไม่ให้น้ำหนัก
ต่อ คำพูดของ ท่าน สุวพันธ์ุ นัก.
...................
- ที่สำคัญ กระแสสังคม ยังแสดงความผิดหวังต่อตัว ท่านรัฐมนตรี ที่ดูแลงานพระศาสนาในนามรัฐบาลอีกด้วย.
................
- ซึ่งตรงนี้ ผมถือว่า "อันตรายอย่างมาก" อันตรายต่อพระพุทธศาสนาด้วย.
- เป็นอันตรายที่อาจส่งผล ไปถึงความน่าเชื่อถือไปยังรัฐบาลเสียเองว่า
"มีความจริงใจ และมีความเข้าใจ ในการแก้ปัญหาสงฆ์แค่ไหน".
.............................
- ประวัติย่อ ท่านสุวพนธุ์ สักเล็กน้อยนะครับ
- ท่านสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ นั้น เดิมเป็น จ. ราชบุรี บิดาเป็นนายทหารบก ยศพันเอก จบ ม.ศ. ๓ แล้วไปเรียนจบที่ ม. เชียงใหม่.
- รับราชการสุดท้าย ผอ. สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ประวัติคนทำงานด้านข่าวกรอง ส่วนมาก หาได้ยากครับ.
...........
- เป็นที่น่าส่งเกตว่า ท่านสุวพันธุ์ เป็นคนราชบุรี บ้านเดียวกับ ท่านพี่ ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตบัญฑิตวิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.
.........
- ตัวท่านประสงค์นั้น ท่านรับราชการครูมาก่อน จากนั้นทำงานด้านความมั่นคง จนได้ฉายา ว่า บุรุษคาบไปร์ เพราะชอบสูบไปร์.
...............
- จนสุดท้ายเป็น อดีต เลขาธิการ สมช. และ อดีตเลขาธิการ นายกรัฐมนตรีที่ชื่อท่าน พล.อ. เปรม.
..............
- แต่ทั้งสองท่าน เป็นคนละอำเภอ เพราะคุณประสงค์ แกเกิดที่บ้านโป่ง.
........................
- ผมไม่ได้มีเจตนาจะโยงท่านประสงค์หรอกครับ.
- แต่ต้องการจะให้ทราบฐานข้อมูลส่วนตัวของท่าน สุวพันธุ์ ว่า ท่านเป็นมาอย่างไรเท่านั้น.
...................
- ซึ่งผมกำลังจะพูดขยายความ ในคำพูด ของท่านสุวพันธุ์ ประกอบประวัติของท่าน ว่า .....
- คนระดับนี้หรือครับ ที่พูดเหมือนคนไม่รู้ข้อมูลความมั่นคงของชาติเลย.
...........
- คนระดับนี้หรือครับ ที่จะคิด และจะพูดเรื่อง เกี่ยวกับหน่วยงานที่ท่านรับผิดชอบโดยตรง เช่น พศ. และ มส.
แบบนี้ออกมาได้อย่างไร.
...............
มาดูกันครับ....ว่า
- ท่านสุวพันธุ์ คิด และพูดอย่างไร ในวงสนทนาครั้งนี้
- และทำไม ผมจึงว่า "อันตราย" มาดูกันครับ.
............................
- ทั้งหมดที่ผมจะพูดถึงนี้.......
- ท่านสุวพันธุ์ จะออกมาปฏิเสธว่าไม่จริง ก็ได้นะครับ.
- แต่คนที่เขานั่งฟังอยู่ด้วยนั้น เขาได้ยินกันหมดครับ.
...................
- ก่อนอื่น ขอย้ำว่า นี้เป็นข้อมูลดิบนะครับ ดิบแบบไม่ปรากฏในการรายงานสื่อไทยเลย ไม่ว่าสำนักไหน.
- ซึ่งผมเห็นว่า น่าจะมีประโยชน์ในการช่วย แก้ปัญหาสงฆ์ ปัญหาสังคมก็ได้.
- วันนี้ ผมจึงตั้งใจหยิบมาขยาย เพื่อเปิดปัญญากันนะครับ.
..........
- เพราะในวันนี้ แค่ข่าวรายงาน ปรากฏนิดหน่อย ว่า .....
"เร่ืองที่ท่านสุวพันธุ์ เสนอจะทำประชาพิจารณ์ หรือประชามติ ตำแหน่งสังฆราช" เท่านั้น
- ผู้คนก็ออกมาประสานเสียงคัดค้านทั้งบ้านทั้งเมืองตอนนี้
เพราะสังคมเขาดูแล้ว ยิ่งเลอะเทอะไปใหญ่.
..............................
- ผสมกับเช้านี้ ด้วยไทยรัฐพาดหน้าหนึ่งว่า
"คนคัดค้าน สมเด็จช่วง ขึ้นสงฆราช ไม่ใช่มีแค่ พระหนึ่ง ฆาราวาส หนึ่ง แต่มีเป็นล้าน".
....................
- เพียงแค่นี้ ก็เล่นเอา ท่านสุวพันธุ์ ลมออกหู ไปร่ายยาวกับ เดลินิวส์รอบใหญ่ ๆ.
................
- และสุดท้าย ก็ขึ้นไปเอ็ดจะเอาเรื่องกับ จนท. ที่สำนักพุทธตั้งแต่เช้าแล้วไปอีกรอบ.
....................
- ผมว่า ก็อย่าไปต่อว่า จนท. ชั้นผู้น้อยเขาเลยครับ
เขาไม่มีอำนาจที่จะมาชี้แนะ หรือบอกกล่าวอะไรกับท่านได้หรอก.
..................
- เจอท่านก็แทบจะวิ่งหนีกัน หรือเดินตัวรีบ กันไปหมดแล้ว
ในสถานการณ์แบบนี้ สงสารเขาเถอะครับ.
......................
- อย่าไปโทษใครเลยครับท่าน สุวพันธุ์
เพราะปัญหาเหล่านี้ ส่วนใหญ่ ของทั้งหมด
ผมว่ามันเริ่มขึ้นที่ตัวท่านนะแหละครับ
โดยเฉพาะในการพูดกับสื่อของท่านในทุก ๆ ครั้ง.
......................
- มาดูว่าทำไม ผม "เจ้าคุณเบอร์ลิน" จึงพูดอย่างนี้.
- เบื้องต้น ผมขอยืนยันก่อนว่า ผมจะสุภาพ และพูดด้วยเจตนาดีกับท่าน.
- ไม่มีแม้แต่นิดเดียว ในการคิดร้ายต่อท่าน เพราะผมไม่เคยรู้จักท่าน ไม่เคยเห็นท่าน.
..............
- ผมก็ได้แต่หวังว่า เผื่อในครั้งหน้า เมื่อท่านมีโอกาสได้อ่านโพสต์นี้แล้ว.
- ท่านจะคิดใหม่ พูดใหม่ ทำใหม่ เพื่อเป็นพระคุณ
แก่พระศาสนายิ่งขึ้นนะครับ.
....................
- คำพูดที่ท่าน สุวพันธุ์ ที่พูดในวง เปรียญ ๙ ประโยค เมื่อ 22.02.2016 นั้น.
....................
- ปรากฏว่า เมื่อผมรายงานในโพสต์ ครั้งที่แล้ว
- ชาวพุทธที่รักพระศาสนา ได้ยินแล้ว
- เกิดอาการ หนาวเย็น ไปถึงขั้วหัวใจเลยครับ ดังนี้......
- ผมขอยกยอดเอามาในส่วนเฉพาะที่ผมคิดว่า สื่อไม่ได้รายงานนะครับ และเห็นว่า สมควรที่ชาวพุทธผู้รักพระพุทธศาสนา
จะต้องได้รับฟังรับทราบร่วมกันนะครับ.

- ในส่วนอื่น ๆ นั้น ก็ให้หาอ่านได้ ในสื่ทั่วไปนะครับ.
...................
คำพูด สำคัญ ท่าน สุวพันธุ์ ....
คำพูดที่ ๑
- ท่านสุวพันธุ์ บอกว่า .......
" เรื่องอำนาจหน้าที่ มส. นี้ก็น่าสงสัย"
- ขอขยายว่า....ถ้าท่าน สุวพันธุ์ พูดออกมาแบบนี้จริง
- ขอสั้น ๆ ว่า "จบกันเลย" ครับ.
- แทบจะเรียกได้ว่า ......
- ทำเอาสังคมไปกันไม่ถูกเลยครับ งานนี้.
.............
- พูดออกมาแบบนี้ สังคมพากันหมดความสงสัยกันเลยว่า..
"ทำไม มติ มส. ในยุคนี้
จึงมีคนออกมาคัดค้านได้ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์สงฆ์ไทย".
............
- นี่ เป็นคำพูดของ ท่านรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดูแลกำกับ พศ. และและ มส. นี้นะครับ
- ท่าน ยังมาสงสัย อำนาจ หรือที่ มส.อีก เป็นไปได้อย่างไร.
...............
- กรรมการมหาเถรสมาคม หรือ มส. ทุกรูปฟังไว้นะครับผม.
- วันนี้ ท่าน รัฐมนตรี ที่เดินเข้าเดินออก มส. ดูแลกิจการพระศาสนาในนามรัฐบาลนั้นนะ.
- เขาเกิดมาสงสัย อำนาจ และหน้าที่ของท่านชะแล้ว.
..................
- หรือนี่เขา จะมาช่วยท่านแก้ปัญหา ช่วยงาน หรือ มาทำอะไรกันแน่ครับ.
...........
- ตรงนี้ ก็ไปคิดเอาเองก็แล้วกันหลวงพ่อ หลวงปู่ มส. ผมแค่เอามาบอกเฉย ๆ ว่า....
"เป็นอย่างไงคนใกล้ชิดพระเรา ทำไมเขาออกมาพูดแบบนี้ไปได้".
....................
คำพูดที่ ๒
- เรื่อง อธิกรณ์ ธัมมชโย ซึ่ง มส. มติชัดเจนไปแล้ว
ตั้งแต่วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙ ว่า ยุติไปแล้ว ไม่สามารถรื้นฟื้นได้อีกแล้ว.
..............
- มาวันนี้ ผ่านไปกว่า ๑ เดือน แล้ว
- แต่ท่าน สุวพันธุ์ กลับมาบอกว่า ......
"มส. ทำไมนิ่ง ทั้งที่มีปัญหา เช่น กรณีธัมมชโย"
- ขอสั้น ๆ นะครับ
- ก็เสร็จกัน คิดได้แค่นี้ วนไปวนมาแบบนี้.
.............
คำพูดที่ ๓.
- เรื่อง ของ พุทธอิสระ ที่มีคนเข้าใจว่า มีแบ็คหนุนหลังนั้น.
...........
- ท่านสุวพันธุ์ท่านว่า.....
"พูดจริง ๆ นะ ไม่มีหรอก พูดและเขียนกันไปเอง ผมอยู่ตรงนี้ กล้ายืนยัน".
..............
- อ้าว .....แล้วตรงนี้นะ มันตรงไหนครับ.
- แล้วถ้าหากมีคนมาถามท่านว่า ......
"ก็แล้วทำไม ตัวท่าน สุวพันธุ์ จึงมายืนยัน ท่านไปเกี่ยวอะไรกับเขา" .
...............
- ท่านสุวพันธุ์ ออกมายืนยัน หรือเคลียแทน พุทธอิสระ
- หรือมายืนยันแทนรัฐบาล หรือมายืนยันเพื่อทำให้ มส. มีแนวทางในการแก้ปัญหา หรือแค่ให้สังคมสบายใจ.
- ท่านก็ตอบสังคมเอาเองนะครับ.
.............
- แต่ตรงนี้ ทุกสายรายงานตรงกันว่า
"พวกเขาไม่เชื่ออย่างที่ท่านสุวพันธุ์พูดครั้งนี้ครับ".
..............................
คำพูดที่ ๔
- ท่านสุวพันธุ์ว่า
"ในกรณีที่ทุกท่านมองว่า พุทธอิสระ มีปัญหา แล้วทำไม (มส.) นิ่งเฉยละ"
- ขอถามกลับท่านสุวพันธุ์ว่า
"หรือตัวท่านมองว่า พุทธอิสระ ไม่มีปัญหาหรือครับ".
.....................
- ท่านสุวพันธุ์ พูดต่อไปว่า......
"ตรงนี้แหละ ผมต้อง หาเวลา คุยกับ มส. เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น".
...................
- ผมว่าการที่ท่าน สุวพันธุ์ จะไปคุยกับ มส. น่ะ.
- ขอให้ท่านไปคุยกันเองในรัฐบาลดีมัยครับว่า.....
- ปัญหาพุทธอิสระนี้ ทำไม เจ้าคุณสุวิทย์ แห่ง วัดพระราม ๙ จึงพูดว่า ......
"คนถือหอกเหล่านี้ ทำอะไรก็ได้ ทำอะไร ก็ไม่เคยผิด"
- แค่คำสะท้อนตรงนี้ ก็น่าจะมีคำตอบแล้ว ว่า สังคม เขาคิดอย่างไงเกี่ยวกับพุทธอิสระ และพวกแล้วครับ.
- อีกอย่าง ก็ในเมื่อท่านกำกับ มส. อยู่แล้ว ทำไมไม่หาทางนำกฏหมายคณะสงฆ์ และกฏ มส. มาบังคับใช้กับพุทธอิสระ บ้างละครับ.
...........
คำพูดที่ ๕
- ทีเด็ดเลยครับงานนี้ ท่านสุวพันธุ์ บอกว่า .....
"ปัญหาเหล่านี้ ผมได้มอบให้ สนช. ชุด คุณไพบูลย์ ไปทำ"
จบกันเลยครับ จบเห่เลยงานนี้.....
....................
- ถึงว่าซิครับ ว่า ปัญหาสงฆ์ มันทำไม่จบ ไม่ยุติสักที
ผมไม่อยากขยายแล้วตรงนี้ ถามท่านกลับว่า....
"ท่านไม่รู้จริง ๆ หรือครับว่า ชาวพุทธ ชาวพระทั่วประเทศ
เขามองคุณไพบูลย์แกว่าอย่างไร"
- ถ้ายังไม้รู้ ไม่ทราบ ก็จบกันแหละครับงานนี้.
..............
คำพูดที่ ๖
- คำพูดนี้ ท่านสุวพันธุ์ว่า
"ตามที่ มส. ตั้ง ๓ กรรมการ มส. มาประสานนั้น สรูปดีมาก แต่ยังไม่โดนใจ" .
...............
- ถึงตรงนี้ ผมว่า การแก้ปัญหาสงฆ์ มองไปแล้ว น่าจะถึงชาติหน้าหรือเปล่าครับ จึงยุติได้.
...............
- เพราะทั้ง ๓ มส. ท่านนี้ ท่านเป็นสุดยอด เป็นระดับมันสมอง ของ ของ มส. เป็นผู้รับผิดชอบ คณะสงฆ์ไทยเลยครับ
ท่านเหล่านี้คือ ......
เจ้าคุณพรหมโมลี แม่กองบาลี เจ้าคุณพรหมบัณฑิต อธิการ มจร. และ เจ้าคุณพรหมมุนี เลขาฝ่ายธรรมยุต.
- ก็ถ้า ๓ รูปนี้ "ยังเสนอไม่โดนใจ" ท่านสุวพันธุ์
ท่านจะหาพระสัพพัญญูที่ไหนครับ.
- หรือท่านจะไปเอา พุทธอิสระ มาตั้งโจทย์กันอย่างนั้นหรือ หรือจะไปเอาเกณฑ์มาตรฐานพระป่า มาบริหารงานคณะสงฆ์.
- ท่านตีโจทย์บุคคล คุณสมบัติบุคคลให้ถูกนะครับท่าน.
- บอกตรง ๆ เป็นห่วงท่านจริง ๆ ครับงานนี้.
...............
คำพูดที่ ๗
- อันนี้เรื่องใหญ่เลย ท่าน สุวพันธุ์ ว่า ......
"ตัวท่าน สุวพันธุ์ ไม่ไม่เชื่อว่า มุสลิมเป็นภัยต่อพระพุทธศาสนา"
- ท่านสุวพันธุ์ว่า "ไม่จริง" และว่าต่อว่า .....
"พวกท่านกลัวกันไปเองหรือเปล่า".
.....................
- ตรงนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผมจะขอผ่านก่อนนะครับ.
- แต่ให้รู้ว่า ระดับอดีต ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ อย่างตัวท่าน หรือครับที่.....
" จะไม่รู้ว่า อะไร คืออะไร ในบ้านเมืองนี้".
...........................
- ท่านพูดแบบนี้ ท่านคิดหรือไม่ว่า....
"ใครจะไปเชื่อท่าน"
- เรื่องแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ต้องไปปฏิบัติครับ ลับด้วย
- ไม่ใช้หยิบมาพูดในที่สาธารณะเช่นนี้ได้ พูดออกมาไม่ได้นะครับ.
- ผ่านเลยนะครับ.
..............
คำพูดที่ ๘ (ขอเป็นข้อสุดท้ายก่อนนะครับ)
- คำพูดของท่าน สุวพันธุ์ คำนี้ บอกได้เลยว่า...
"เหมือนสาดน้ำมันเข้ากองเพลิงที่กำลังลุกอยู่ ให้หนักเข้าไปอีก"
- ท่านสุวพันธุ์ พูดว่า....
"เออ...ผมถามจริง ๆ เถอะว่า
"ธรรมกาย เป็นภัย ต่อความมั่นคงมัย".
................
- ผมถามว่า ผู้คนที่ศรัทธาสายวัดพระธรรมกาย ทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก เป็นจำนวนหลาย ๆ ล้าน ๆ นี่.
- เขาจะคิดอย่างไงครับท่าน เมื่อได้ยินคำพูด คำถามของท่านแบบนี้.
- ผลเป็นประการใด ผมไม่ต้องตอบ ท่านก็ไม่ต้องตอบ ใครก็ไม่ต้องตอบ ให้สถานการณ์มันตอบเองก็แล้วกันครับ.
...................
- ตรงนี้ อ. บรรณจบ ตอบทันทีว่า "ไม่เป็น".
..................................
- กรณีธรรมกายนี้ สุดบรรยายเลยครับ โอ้..ท่านสุวพันธุ์ ทำไมท่านถามออกมาแบบนี้.
- ในใจท่านคิดอะไรอยู่ ถามต่อจากประเด็น มุสลิมเสียด้วย.
- หรือท่านสุวพันธุ์ ท่าน จะมองว่า ปัญหาธรรรมกาย กับปัญหาสลิม เหมือนกันมิติไหนหรือไงครับ.
............
- หรือไม่อย่างนั้น ทำไมท่านจึงรีบปฏิเสธให้กับมุสลิมว่า
"ไม่จริง คิดกันไปเอง".
- ส่วนปัญหาธรรมกายนั้นท่านกลับมาเน้นว่า......
"ถามจริง เถอะว่า เป็นภัย ต่อความมั่นคงมัย".
- งงกันทั้งโลกเลยละครับ งานนี้.
......................
- ท่านกำลัง คิดอะไร อยู่ในใจหรือครับท่าน สุวพันธุ์
- อดีตท่านคือ ผอ. สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ท่านหยิบเรื่องนี้ มากล่าวแบบนี้.
- มันหมายถึงอะไรครับ บ้านเมืองเรา มองปัญหากลับด้านหรือเปล่าครับ.
.........................................
- คำพูดทั้งหมด ๘ ข้อที่ผมพยายามสรูป และยกมาขยายนี้
- ตัวผมเอง กล้ายืนยันได้ว่า
ไม่มีเจตนาร้ายต่อใคร ๆ ทั้งสิ้น ทั้งสังคม ทั้งชาวพุทธ ชาวมุสลิม และฝ่ายถือข้างใด ๆ รวมทั้งตัวท่าน สุวพันธุ์ ด้วย.
..........................
- โดยเฉพาะท่าน สุวพันธุ์ ที่ผมมองแกว่า ......
- แกเหมือคนโบราณ ที่ดูดุนอก แต่เมตตาใน
- ซ้ำในข้างต้นแกก็ยังบอกว่า ......
"แกกราบหลวงพ่อวัดปากน้ำ ด้วยความสนิทใจ"
- ตรงนี้ชาวพุทธฟังแล้วชื่นใจครับ.
......................
- แต่ที่ผมพรรณนามาทั้งหมดยืดยาวนี้
ก็เพื่อต้องการชี้ให้เห็นว่า .......
"ถ้าระดับผู้นำ ผู้ปกครอง สังคม โดยรวมก็คือรัฐบาลนะแหละ
ที่รับผิดชอบในการแก้ปัญหาสงฆ์โดยตรง
ถ้าหากพวกท่านคิดอย่างนี้ พูดอย่างนี้ ทำอย่างนี้ละก็".
.........................
- ปัญหาสังคม ปัญหาบ้านเมือง ปัญหาสงฆ์ บอกได้คำเดียวว่า
"ริบหรี่เลยครับ".
..............
- วันก่อน รำพังฟังคำพูดท่านสุวพันธุ์ พูดแล้ว ว่า เย็นถึงกระดูกในเข้าไปแล้ว.
.................
- มาวันนี้ แทบเขียนไม่ไหวกับข่่าว
- รายงานข่าวว่า ดร. วิษณุ เครืองาม ย้ำคุณลักษณะพิเศษ ของ ท่าน สุวพันธุ์ ว่า......
"นายสุวพันธุ์ เป็นคนพูดเก่ง ถึงแม้จะพูดน้อย
แต่เมื่อพูดแล้ว มีเหตุ มีผล ไม่ได้พูดเรื่อยเปื่อย".
- พอได้ยิน ดร. วิษณุ ออกมาพูดรับรองท่าน สุวพันธุ์ ไว้แบบนี้แล้ว.....
- ทำให้ผมอยากจะโปรโมทตัวเองขึ้นมาจริง ๆ ว่า ....
"ฉันเป็นโพธิสัตว์ นี้เป็นชาติสุดท้าย ไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว"
- ให้ตายซีครับผม มันคิดปนกันได้ไงไม่รู้ครับ.
..............
- ผมไม่อยากจะพูดมากไปกว่านี้ เดียวจะท้อแท้กันไปใหญ่
โพสต์ครั้งนี้ ขอจบแค่นี้ก่อนนะครับ.
....................
- ก่อนจบ ขอฝากไว้เป็นคติธรรมครับว่า....
- อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไร้ตัวตน.
- สรรพสิ่ง มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นธรรมดา.
- ดี - ชั่ว เท่านั้น ที่จะติดตามเราไปทุกภพทุกชาติได้.
โชคดีมีชัยครับผม
เจ้าคุณเบอร์ลิน.
24.02.2016
แนบ นสพ. ข่าวสด.




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น