วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ตรรกะเดียวกันแต่ใช้ไม่เหมือนกัน : ปรองดองรอชาติหน้า

ตรรกะเดียวกันแต่ใช้ไม่เหมือนกัน : ปรองดองรอชาติหน้า

 .............

- วันนี้ ผมอาจจะพูดอะไรที่ขัดใจรัฐบาลนิดหน่อย แต่เมื่อจำเป็นก็ต้องพูดครับ.
แต่ขอย้ำก่อนว่า "ทุกอย่าง ก็ด้วยกุศลเจตนาต่อท่าน ต่อบ้านเมืองครับ"
.......
- ตามหัวข้อข้างต้นนั้น
ถามว่าทำไม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่รัฐบาลนายกบิ๊กตู่ ที่ บริหารประเทศมานาน
สังคมจึงไม่ปรองดองกันสักที ซ้ำมีแต่ความขัดแย้งขยายขึ้น
แตกสามัคคี ทำผิดกฏหมาย ผู้คนไม่เคารพกฏหมาย ซึ่งนับวันจะเพิ่มเรื่อย ๆ.
....
- ทั้ง ๆ ที่นายกรัฐมนตรี พยายามขอร้อง ออกทีวีจนคนเบื่อ
พยายามออกมาเรียกร้อง ให้เคารพกฏหมาย เคารพกฏกติกา ให้มีความปรองดอง
ความขัดแย้งก็ยังมีมาก ทั้งยังลามก็ไปสู่ศาสนจักร โยงใยไปสารพัด.
.......
- เพราะอะไรจึงไม่ได้ผล ท่านนายกบิ๊กตู่ เงื่อหูมาครับ แล้วตั้งใจฟังดี ๆ นะครับ ผมจะแจงให้ฟัง เป็นข้อ ๆ
...................
1. ที่เป็นสาเหตุใหญ่ว่า ทำไม บ้านเมืองเรา จึงมีแต่คนไม่เคารพกฏกติกา การเรียกร้องให้เคารพกติกาจึงไร้ผล.
.....................
- ก็ตำราเหมือแม่ปู สอนลูกปู่ ให้เดินตรง ๆ แหละครับ หรือ
แม่ยืนสูบบุหรี่ กินเหล้า แล้วเคี้ยวเข็นลูกว่า ....
"อย่าทำแบบนี้นะลูก มันไม่ดี"
สอนแบบนี้มันจะได้ผล ได้อย่างไงละครับ.
..............
2. ตรงนี้ ผมว่าจะหยิบมาพูดตั้งนานแล้ว
ตั้งแต่ได้ยินนายกรัฐมนตรี และคนฝ่ายรัฐบาลสารพัดคน
ยืนพูดในล่องเดียวกันทั้งทำเนียบว่า.....
"การตั้งสังฆราชรูปใหม่นั้น
จะต้องทำให้ความขัดแย้งหมดให้ได้เสียก่อน
จึงจะทูลเกล้า ฯ ได้".
.................
- การพูดเช่นนี้ ท่านนายก ไม่ทราบหรือครับว่า ไม่มีผลดีใด ๆ เลย
ผู้คนในสังคมใครก็เข้าใจกันทันทีทั้งนั้นว่า ....
"พูดอย่างงี้ มันพูดแบบปัดสวะ พูดแบบไร้ความรับผิดชอบ" .
..................
- ทำไมผมจึงพูดแบบนี้กับท่านนายก...
ก็เพราะว่า โดยความเป็นจริง ปชช. คนไทยมีมากกว่า 60 ล้านคน
การที่จะมาทำให้คนทั้งหมด มาเห็นพร้อมกัน ด้วยเรื่องเดียวกัน
"โลกไหนทำได้ครับ" ผมขอถามท่านหน่อย.
.................
- ซ้ำผู้คนในสังคมทุกวันนี้ เขาก็สรูปทราบกับไปหมดว่า
ที่สังคมสับสนวุ่นว่ายอยู่ทุกวันนี้ ....
"มันก็มีเพียงกลุ่มคนจำนวนไม่ถึง 1 เปอร์เซ็น
ของทั้งหมดหรอกครับ ที่ออกมาคัดค้าน"
ที่สำคัญกลุ่มดังว่านี้ ก็ยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับท่านนายกอีกด้วย
อีกกว่า 60 ล้านคนที่เห็นต่างจากกลุ่มนี้
ท่านนายกคิดจะเอาพวกเขาไปไว้ที่ไหนละครับ หรือมองว่าใช้ไม่ได้ ใช้ได้แต่พุทธอิสระกลุ่มเดียว
หรือท่านมองพวกเขาเหล่านี้ ไม่มีความหมาย ไม่มีคุณค่าพอที่จะเทียบกับ พุทธอิสระ และพรรคพวกที่เคลื่อนไหวดะขณะนี้หรือครับ อันตรายนะครับแบบนี้.
................
...............
- ตอบผมมาก่อน หรือตอบในใจก็ได้ อย่าเพิ่งโกรธผมนะครับ
วันนี้ อยากขอให้ท่านอยู่กับความเป็นจริง ตั้งสติดี ๆ สักวัน
จะสะท้องความจริงให้ท่านฟัง ด้วยกุศลเจตนาครับ
เป็นความเป็นจริงที่ท่านต้องเดินออกมาจากลูกน้องท่านเสียก่อน
ที่มันได้แต่เลียท่าน รายงานแต่ตรงข้าม
ให้ท่านฟังทุกวันเสียก่อน "จึงจะได้ฟังเรื่องจริงแบบนี้".
...............
- มาครั้งนี้ กลับตรงข้าม บอก ว่า "ให้ความขัดแย้งสงบก่อน"
ทั้งกลุ่มพวกคัดค้าน ก็มีแค่เพียงเศษเสี้ยวของจำนวนประชากรทั้งประเทศเท่านั้น
เอามัยละครับ สั่งทำประชามติไปเลย ว่า....
คนจะเอาสมเด็จช่วง มีจำนวนเท่าไร
คนจะเอากับนายกบิ๊กตู่ มีจำนวนเท่าไร
หรือ จะพ่วงว่ามีคน จะเอาด้วยพุทธอิสระ กับคุณไพบูลย์ มีจำนวนเท่าไร ไปด้วยก็ได้
ให้สอบถามพระสงฆ์สามเณรจำนวน สามแสนกว่ารูปด้วยก็ได้
ไปคิดเอาเองนะครับท่านนายก พูดมาขนาดนี้
ท่านนายกใจเย็น ๆ ฟังให้จบนะครับ.
...............
3. การสร้างความปรองดอง ให้เกิดขึ้นในชาตินั้น
ผมจะบอกให้ มันง่ายนิดเดียวครับ
ถ้าท่านนายกคิดจะทำจริง ๆ มีความจริงใจในการแก้ปัญหาจริง
ผมจะชี้ให้เห็นชัด ๆ จะจะแบบง่าย ๆ สไตร์ลูกทุ่ง ๆ นะครับ
นั้นก็คือ .....
"ทฤษฎีแยกหมา ไม่ให้กัดกัน"
เทียบแยกลูกหลานไม่ให้ทะเลาะกัน หรือ ห้ามมวยบนเวทีก็ได้.
...
- ค่อย ๆ นึกภาพนะครับ
เวลาจะแยกหมา ที่กำลังกัดกันมั่วอยู่นั้น ให้ออกจากกันได้ผล
(คนปกติมีสติปัญญาสมบูรณ์เขาไม่ค่อยทะเลาะกัน).
..............
- เมื่อท่านนายกจะเข้าไปแยก
ท่านจะต้องจับแยกทั้งสองฝ่าย ทั้งสองตัวนะครับ
อย่าไปแยก หรือไปจับ "แค่ตัวเดียวฝ่ายเดียว"
แต่ "อีกตัวกลับปล่อยให้กัดอีกฝ่าย ได้ตามใจ" (ดังปัจจุบัน)
เพราะหากเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ทำนองเดียวกันแหละครับ.
...........
- อีกตัวก็จะ "พุทธ"" อิสระ ทันที
ยิ่งถ้ามาตัวนั้นมันบ้า ก็จะโดดกัดอีกฝ่ายทันทีไม่รู้จบ
หากเป็นเช่นนี้ อีกฝ่ายก็จะต้องเจ็บแค้น รอเวลาเอาคืน และกล่าวหาว่า
"ผู้ใหญ่ ลำเอียง ไม่ยุติธรรม"
.............
ชัดมัยครับ
- นั้นก็คือ วิธีการที่จะทำให้สังคมเป็นปกติสุขเกิดขึ้นนั้นได้แบบถาวร
กรณีการบังคับใช้กฏหมายให้เท่าเทียมกัน ให้เสมอภาคกัน ก็เช่นกัน
อย่าทำเหมือนดัง "ปากว่าตาขยิบ ไปให้ท้ายอีกฝ่าย"
ตรงนี้ต่างหากละครับ จึงจะใช้ได้ผล
เห็นมัยครับ มันง่ายนิดเดียว ถ้าจริงใจต่อกัน.
............
- สภาพปัจจุบัน ก็คือ ฝ่ายหนึ่ง ทำอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ไม่ผิด
เคลื่อนม๊อบไปได้ทั่ว แม้นำม๊อบไปปิดสถานทูตอเมริกา
ซึ่งใครก็รู้ว่า ตรงนั้น พฤติกรรมนั้น มันเหมาะที่
"คนที่อ้างว่า ตนเองเป็นพระ จะไปเดินอยู่ หรือครับ"
สุดท้าย ท่านนายกก็เงียบ กฏหมายถูกละเมิด
กฏหมายห้ามชุมนุม เงียบฉี่
นี้แหละครับ ต้นต่อปัญหาความขัดแย้ง.
................
- แต่พอมาวันนี้ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
พระสงฆ์ชาวพุทธจำนวนกว่าหมื่น จะเข้าไปทำกิจกรรมที่ พุทธมณฑล เนื่องในวันมาฆบูชา
ท่านนายกกลับ ส่งทหารตำรวจ ไปขวางจนเกิดเรื่อง
ซ้ำหลอกให้สลายการชุมนุมไปแล้ว
ก็ยังให้ท้าย พุทธอิสระ และพวกพ้อง เปิดไฟเขียวให้เจ้าหน้าที่ พยายามร่วมซ้ำ จะตั้งข้อหาว่า
"ขัด พรบ. การชุมนุม" ไปชะอีก
ถึงขนาด กองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งโต้ะแถลงจะจับเจ้าคุณประสาร และแกนนำไปโน่น.
............
- ไอ้ขยันโง่ ในเรื่องแบบนี้แหละครับ ที่ผมเคยพร่ำเตือนว่า มันอันตราย
"จะเกิดเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้"
ส่วนข้อเรียกร้องนั้น ทำไมไม่มองว่า มันก็เพียงส่วนประกอบเท่านั้น
เพราะก็ยังไม่รู้ว่าผลจะอย่างไร เรียกว่า "ลม ๆ แล้ง ๆ" ก็ได้.
...........
- ส่วนสำคัญคือ ท่านนายกคิดออกมัยครับว่า
การมาชุมนุนของพระของชาวพุทธจำนวนมาก ๆ ในครั้งนี้
เจตนาท่าน ก็เพื่อจะแสดงพลังชี้เตือนรัฐบาลว่า....
"ให้เดินตรง ๆ ทางนะ ไม่เช่นนั้น จะเกิดเรื่องใหญ่ตามมา"
มองประเด็นให้ถูกนะครับ จะได้ประเมินสถานการณ์ถูก
ต้องใช้กฏหมายให้เท่าเทียมกันครับ สังคมจึงจะปกติสุข ท่องไว้.
................
4. สุดท้าย อยากจะเตือนดัง ๆ ว่า
- กรณีผู้ใหญ่ฝ่ายรัฐบาลหลายท่าน พยายามจะพูดให้สังคมเข้าใจทำนองว่า....
"พระสงฆ์ หรือ มส. กำลังจะทำตัวอยู่เหนือกฏหมายบ้านเมือง"
ขอให้ท่านที่พูดเช่นนี้ กลับตัวกลับใจ เสียใหม่นะครับ
ผู้คนในสังคมไทยเรานั้น
ไม่มีใครฉลาดกว่ากันไปมากหรอกครับ
พวกเขาฟังที่ท่านพูดแล้ว
"เขามองเจตนาท่านออกทันที" ครับ
ก็ใครละครับในแผ่นดินไทย นี้
ที่มันจะเพี้ยนถึงขนาดจะคิดอยู่เหนือกฏหมาย
มันเป็นไปได้หรือครับ
พูดแบบนี้ สมัยก่อนเขาเรียกว่า
"เสี้ยม" ครับ.
...............
- ผมจะบอกให้ พระสงฆ์ไทยนั้น
เป็นบุคคลประเภทเดียวในโลกนี้ ที่ "อยู่ใต้กฏหมาย ๒ ฉบับ คือ
๑. พระธรรมวินัย
๒. กฏหมายบ้านเมือง.
....................
- มติ มส. เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ กรณีอธิกรณ์ ธัมมชโย นั้น
มันมีตรงไหนแม้แต่คำเดียวละครับ
ที่มตินี้ ไปก้าวล่วงกฏหมายบ้านเมือง ท่านตอบมาซิ ..
แม้แต่ที่ผม "เจ้าคุณเบอร์ลิน" พูดมากว่า ๒ เดือน นี้ก็ตาม.
...
- มติ มส. ครั้งนี้ ท่านตัดสิน
เฉพาะแค่เพียงกรอบในพระธรรมวินัยเท่านั้น
ซึ่งที่เรียกว่า ศาลสงฆ์ ๆ.
..........
- ตรงนี้ ผมอยากจะพูดแทน มส. ทุกรูปแบบภาษาพ่อขุนชัด ๆ ว่า....
"เรื่องคดีความห่าเหวอะไรนั้น ทั้งรถหรู ที่ดิน สหกรณ์คลองจั่นนั้น มันเกี่ยวอะไรกับกูด้วย
พวกมึงก็ไปจัดการของมึงเองซิ
ถ้าพวกมึงว่า เขาผิด
ก็ดำเนินการไปตามกฏหมายบ้านเมือง
ถ้าพวกมึงมีปัญญาเอาผิดเขาได้ ตามที่กล่าวหาเขาไว้
มาเกี่ยวอะไรกับ มติ มส.ด้วย".
ชัดมัยครับ.
........
- นี่อะไร มาพูดโวหารจับ โยงมั่วไปหมด
จนสังคมสับสน พาลจะกลายเป็นปัญหาโลกแตก แก้ไม่จบสักที.
................
- ผมก็ไม่อยากโทษรัฐบาลหรอกครับ
ที่ไม่ได้ออกมาปราม หน่วยงานรัฐที่เข้ามาก้าวก่ายศาสนจักรทุกวันนี้
เพราะพูดมามากแล้ว และก็ไม่อยากจะเอ่ยว่า เป็นหน่วยงานไหนด้วย
ที่ปล่อยให้พูดโยงตีกิน หลอกด่า มส. บนหน้า นสพ. จนทุกวันนี้
รู้ ๆ กันอยู่ สังคมเขาก็สรูปกันไปแล้วด้วย.
...........
- สุดท้ายพอมาวันที่ 15 กุมภาพันธ์ แกนนำพระมาชุมนุมเกิดพลาด ร่างสังฆมติ ไม่รอบครอบไปหน่อย
เปิดช่องทำให้พวกหัวหมอ หาช่องได้ตีโต้
พระสงฆ์จึงมาถูกกล่าวหาว่า
"พระจะทำตนเหนือกฏหมาย" ไปอีก
ทั้งรองวิษณุ ทั้ง พล.อ. ไพบูลย์ ก็มาย้ำให้สังคมเขวงอีก.
.............
- ขอเถอะครับ ไอ้วิสัย หรือ พฤติกรรมเช่นนี้
อยากขอร้องให้จำกัดกรอบแค่
อาณาจักร (รัฐบาล) นะครับท่านรัฐบาลผู้เจริญ
ขอกรุณาอย่าได้ลากสิ่งสกปรกเข้ามาสู่ศาสนจักรเลยครับ
มันบาปนักนะครับ
ถือว่าเอาบุญก่อนตายเถอะครับท่าน.
................
- ขอจบว่า ทั้งหลายทั้งปวงนี้ เป็นการเตือนสติด้วยกุศลเจตนานะครับ อย่าได้มองเป็นอื่นไป
และขอจบแบบสั้น ๆ เลยนะครับว่า
"เมื่อครู่ มีจดหมาย ฉบับหนึ่ง ส่งถึงผม ว่า
ได้ไปแจ้งความ ร้องทุกข์ ต่อ พุทธอิสระ ที่ สน. พุทธมณฑล เรียบร้อยแล้ว"
ดังรายละเอียดที่ผมแนบมานี้.
..........
- นี่ถือว่าตัวอย่างคนรักพระศาสนาจริง ครับ
ใครมีกำลังยึดเป็นแบบอย่างได้ครับ บุญใหญ่เลย
เอาเลยครับ พระเณรก็ทำได้ ออกมาปกป้องภัยพระศาสนากัน
อย่าปล่อยให้เขารังแกพระศาสนาเรา
เอาให้ พุทธอิสระ แกเดินทางตะลอนขึ้น สน. ทุก ๆ วัน
ทั่วประเทศไปเลย จนแกไม่มีเวลาไปร้องเรียนที่โน่นที่นี่ให้สังคมระอา ครับผม.

โชคดีมีชัยทุกท่านครับ
เจ้าคุณเบอร์ลิน

17.02.2016



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น