วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ตีเบตตำแหน่งสังฆราช : เรื่องละเอียดอ่อนยิ่ง /เพิ่มปัญหาขึ้น.

ตีเบตตำแหน่งสังฆราช : เรื่องละเอียดอ่อนยิ่ง /เพิ่มปัญหาขึ้น.

 ...................

- อ่านข่าวท่านนายกบิ๊กตู่ ให้สัมภาษณ์จากอเมริกาทำนองว่า
หากการสถาปนาตำแหน่งสังฆราชยังหาข้อยุติไม่ได้
กลับมาแล้วจะจัดให้ทั้งสองฝ่าย "ตีเบต" กัน.
............
- ผมฟังครั้งแรกก็ไม่น่าเชื่อว่า ท่านนายกจะพูดจริงแล้วละครับ
ถึงพูดจริง ในขณะนั้น แสดงว่า ท่านนายกอาจยังไม่ได้พิจารณารอบด้าน
เพราะเรื่องมาจัดให้มีการ ตีเบต เรื่องนี้ นี่มันเรื่องพระศาสนา เรื่องของความเชื่อ เรื่องความศรัทธา เรื่องของจิตใจของมนุษย์
ที่สำคัญ เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับ
"พระราชอำนาจโดยตรง" ครับ.
................
- ดังนั้น เรื่องละเอียดอ่อนเช่นนี้
มันจึงไม่มีความเป็นไปได้เลย ไม่ว่าจะด้วยเหตุ ด้วยผล หรือ ใด ๆ ทั้งสิ้น
ตามข่าวนั้น ท่านนายกให้เหตุผลว่า "เพื่อให้ประชาชนตัดสิน"
ตัดสินอะไรครับ
ตัดสินว่า จะเอาใคร ระหว่าง
ผู้คัดค้านอิงการเมือง และกลุ่มก้อนที่แสดงอกุศลเจตนาอย่างชัดแจ้งว่า "ไม่เอาสมเด็จช่วง"
กับ มส. หรือคณะสงฆ์ทั้งสังฆมณฑล ไม่รวมพุทธศาสนิกชนทั่วโลกก็ว่าได้
หรือครับ.
..............
- ถ้าเป็นเรื่องนี้ ผมขอบอกท่านนายกได้เลยว่า....
"ประชาชนทั้งประเทศ เขาติดสินใจไปนานแล้วครับ"
ส่วนพวกเขาซึ่งมีจำนวนหลายสิบล้านทั้งประเทศเหล่านี้
จะตัดสินใจอย่างไรนั้น
ผมคงไม่ต้องบอกนะครับ คิดว่าท่านต้องทราบดีอยู่แล้ว
และก็คงไม่ต้องบอกต่อไปว่า
จากนี้ไป เรื่องนี้ ก็อยู่ที่ตัวท่านนายกเองแหละครับว่า
"จะดำเนินการอย่างไรต่อไป อยู่ที่ท่าน อยู่ที่ท่านจริง ๆ".
.................
- กรณี ถ้าดำเนินการไปตามที่ท่านนายกกล่าวไว้
บอกได้เลยว่า ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา
ซ้ำยังเป็นการเพิ่มปัญหาหนักขึ้นไปกว่าเก่าอีกด้วย
เพราะจะเป็นการขยายปัญหาความขัดแย้งให้ขยายวงกว้างไปอีก
มาดูครับผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง.
ประการที่หนึ่ง
- ตำแหน่งนี้เป็นของสูง สูงกว่าตำแหน่งใด ๆ ในการบริหารประเทศทั้งหมด
เพระไม่ใช่เรื่องของการใช้อำนาจบริหารเพียงอย่างเดียว
แต่เป็นตำแหน่งผู้นำสูงสุดของสงฆ์ ย้ำว่า "สงฆ์"
มันเป็นเรื่องของจิตใจ ของความเชื่อ ของความศรัทธา ที่เกี่ยวข้องกับชาวพุทธจำนวนมากทั่วไป.
ประการที่สอง
- ตำแหน่งพระสังฆราชนั้น เป็นพระราชอำนาจที่พระมหากษัตริย์ทรงใช้ ผ่านพระธรรมวินัย กฏหมาย กฏมหาเถรสมาคม
ย่อมไม่ใช่เรื่องสมควร ที่จะนำมาตีเบต แสดงความเห็นในที่สาธารณะเหมือนกรณีอื่น ๆ
มีทางเดียว ก็คือ จะต้อง ยึดพระธรรมวินัย กฏหมาย จารีต เท่านั้น.
ประการที่สาม
- ต้องถามว่า จะเชิญใครมาตีเบตกัน
จะให้ตัวแทนความขัดแย้งทั้งสองฝ่ายหรอครับ
ฝ่ายคัดค้าน ที่เห็นหลัก ๆ ก็มี พุทธอิสระ คุณไพบูลย์ นิติตะวัน คุณไพศาล พืชมงคล
ถามว่า ทั้ง ๓ ท่านนี้หรือ ที่จะมาตีเบตกับพระสงฆ์ หรือพุทธศาสนิกชนทั้งประเทศ
ซึ่งมีจำนวนมากกว่าเป็นล้าน ๆ เท่าของอีกฝ่าย
หากเชิญมาตีเบตจริง อีกฝ่ายก็คงจะวนซ้ำอยู่กับ ๓ ท่านนี้แหละ
แต่อีกฝ่าย จำนวนหลายสิบล้านคน แล้วจะเอาพวกเขาเหล่านี้ไปไว้ที่ไหนครับ
ด้วยเหตุผลแค่นี้ ก็ผิดหลักตีเบตแบบยุติธรรมแล้วครับ.
ประการที่สี่
- ถามว่าจะไปเชิญตัวแทน กรรมการมหาเถรสมาคม
ให้มาตีเบตกับ พุทธอิสระ หรือครับ
ตรงนี้ ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วละครับ นอกจากจะเทียบให้ฟังว่า
"ก็เหมือนเอาพลทหาร มีตีเบต
กับผู้บัญชาการทหารบกนะแหละครับ"
เข้าใจนะครับ.
- ส่วนการจัดเอาพระสงฆ์ครองจีวร มาตีเบต เรื่อง ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งประมุขของพระสงฆ์เอง โต้กับ ฆารวาส นั้น
- ในโลกนี้ หากเกิดขึ้นจริง ๆ ผมว่า คงจะต้องเอาคำสอนไปคืนพระพุทธเจ้าที่อินเดียแล้วละครับ
ก็มันเกี่ยวอะไรกันครับ
- เพราะตำแหน่งพระสังฆราชนั้น หาใช่่เป็นการใช้อำนาจทางกฏหมายบ้านเมืองอย่างเดียวไม่ เพราะนี่มันแค่เรื่องรอง
ส่วนเรื่องหลักก็คือ จะต้องปกครองดูแลสงฆ์ทั้งสังฆมณฑล ด้วยพระธรรมวินัยด้วย
แล้วยังงี้ ฆารวาส มาข้องเกี่ยวกับธรรมวินัยของพระหรือครับ
(อย่าไปโยงออกไปเรื่องกฏหมายบ้านเมืองนะครับ).
ประการที่ห้า
- ไม่ว่าจะด้วยเหต หรือด้วยผล ที่เป็นไปไม่ได้โดยประการทั้งปวง
ในการตีเบตเรื่อง สถาปนาตำแหน่งพระสังฆราชในครั้งนี้ ก็คือ
"ในประวัติศาตร์ประเทศไทย ไม่มีพระสังฆาชที่มาจากการ "ตีเบต" ครับนายก.
..................
สรูปท้ายว่า
- ท่านนายกบิ๊กตู่ หากกลับมาแล้ว ท่านอย่าไปเชื่อใครเด็ดขาดนะครับ ว่า
จะต้องจัดตีเบต เรื่องนี้ หากใครพูดเรื่องนี้กับท่าน ผมบอกได้เลยว่า
"พวกเขาวางยาท่านเข้าให้แล้ว"
........
ก่อนจบ ผมอยากจะแทรกความรู้แก่ผู้สนใจทั่วไปให้เป็นความรู้รอบตัว ว่า ...
เรื่องตีเบตที่เรียกในสมัยนี้นั้น...
แต่ทางพระท่านเรียกว่า
"ปรับวาท"
.......,
- ในครั้งพุทธกาลมีโต้กันครับ
แต่เป็นระหว่าง พระสาวก กับ พวกเดียรถีย์นอก ศาสนา เช่นตัวอย่าง...
อัญญเดียรถีย์
สัจจกนิครนถ์.
....
- ปรับวาท พระพุทธเจ้าใช้เป็นหลักในการโต้วาทะกับคนนอกศาสนา
เช่น พระพุทธเจ้า ปรับวาทกับ สัจจกนิครนถ์
เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อัญญเดียรถีย์.
....
- พระสารีบุตร ก็เคยปรับวาทกับ ปริพาชิกา ซึ่งเป็นหญิงนอกศาสนา ชอบดูถูกพระ.
- ส่วนพระกับพระไม่เคยมีปรับวาทกันครับ.
- พระกับพระนั้น ท่านใช้คำว่า วิวาทะ คือ การทะเลาะกัน
ซึ่งพระพุทธเจ้าห้ามไว้
และถือว่าเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับพระ เป็นอาบัติด้วย.
ส่วนภิกษุผู้ว่ายากสอนยาก ตะเกียกตะกายทำลายสงฆ์นั้น
มันเกินจุดนี้ไปนานแล้วครับ
พระค้าความ พระท้าตีท้าต่อย พระอยู่ตามม๊อบ ฟ้องดะไปทั่ว
เลวมัยละแบบนี้.
นี่คือความรู้ครับ.
โชคดีมีชัยทุกท่านครับ.
เจ้าคุณเบอร์ลิน
18.02.2016


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น