วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2559

มติ มส.เดียวกัน หนึ่งเรียกร้องให้ปฏิบัติตาม หนึ่งกลับมีคำสั่งห้าม :แก้ปัญหาปลายเหตุ ระวังตอกย้ำรอยร้าวเสียเอง.

มติ มส.เดียวกัน หนึ่งเรียกร้องให้ปฏิบัติตาม หนึ่งกลับมีคำสั่งห้าม :แก้ปัญหาปลายเหตุ ระวังตอกย้ำรอยร้าวเสียเอง.

 

 ...............

แจ้งด่วนเพิ่มว่า.....
มีคำสั่งด่วนจากไทยตรงถึงเบอร์ลินว่า..
" ให้กระจายข่าวว่า.....
- อันวัดที่ขึ้นป้ายแล้ว ก็ให้ขึ้นต่อไป.
- ส่วนที่ยังไม่ขึ้น หากรักหลวงพ่อ ศรัทธาในปฏิปทาหลวงพ่อวัดปากน้ำ หรือสำนึกในบุญคุณของท่านว่า..
- ท่านได้สร้างคุณูประการต่อคณะสงฆ์ และเมตตาเกื้อกูลพวกเราโดยธรรมวินัยบริบูรณ์.
- ก็จงร่วมกัน ขึ้นป้ายให้ทั่วสังฆมณฑลไปเลยครับ เพราะถือว่าถูกต้องทั้งธรรมและวินัย กฏหมายสงฆ์ และจารีต.
- ส่วนผู้ที่ไม่เห็นคุณ ไม่รู้คุณ ไม่เห็นด้วย ก็ตามสบาย ครับ.
- ขอเน้นว่า นี่เกิดจากสามัญสำนึกที่ดีของผู้แสดงออก ไม่เกี่ยวกับ หลวงพ่อสมเด็จช่วง หรือ มส. ใด ๆ ทั้งสิ้น.
- อย่าไปโยงถึงท่าน หรือหน่วยงานใด ๆ.
- เข้าใจตรงกันนะครับ.
...........................................................................
เบื้องต้นต้องขอแจ้งก่อนว่า
๑. ผมเห็นด้วยที่ท่านเจ้าคุณ พระพรหมโมลี (สุชาติ) ประธานคณะเลขาผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่ได้มีหนังสือ.
- เพื่อแจ้งให้วัดทุกวัด ห้ามขึ้นป้ายสนับสนุน มติ มส. กรณีส่งรายนามสมเด็จช่วง ให้รัฐบาลนำขึ้นทูลเกล้า ฯ
- เพราะต้องรักษาองค์กรไว้ ป้องกันรัฐบาลเกิดระแวง มส. เสียเอง เกรงจะแตกร้าวไปอีก และป้องกันผู้คัดค้านนำไปเป็นประเด็นนั้น ถูกต้องแล้ว.
๒. แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการวิธีการแก้ปัญหาแบบปลายเหตุเช่นนี้ ซ้ำไม่ได้อธิบายต่อผู้ปฏิบัติ และสังคมไปว่า ห้ามแบบนี้ แล้วจะให้ทำอย่างไรต่อไป.
๓. เป็นเรื่องที่จะต้องอธิบายว่า แล้วการขึ้นป้ายสนับสนุน มติ มส. นั้น มันผิดยังไง ขึ้นป้าย ไม่สนับสนุนซิ สมควรผิด.
- จะตอบยังไง ถ้ามีคำถามว่า ทำไมการสนับสนุน มติ มส. นั้น มันมีความผิดหรือความถูกกันแน่ครับ.
๔. แล้วด้านหนึ่ง มส. พศ. เอง ก็เรียกร้องให้รัฐบาลเคารพมติ มส. อย่างเคร่งครัด เพราะชอบด้วยพระธรรมวินัย กฏหมาย และจารีต.
- แต่ทำไมอีกด้านหนึ่งจึงห้ามสนับสนุนละ ทั้งที่เป็น มติ มส. อันเดียวกันแท้ ๆ จะต้องอธิบายสังคมให้ได้ตรงนี้.
............
- ทั้ง ๔ ข้อนี้ น่าจะเป็นการบ้านต่อไป ของผู้เกี่ยวข้อง ที่จะต้องนำไปเตรียมแก้ไข ซ้ำไม่รวมตั้งระวังผู้ที่จ้องคอยจะค้านดะด้วย.
- แต่ทั้งนี้ ผมเองก็ยอมรับ และสนับสนุนทุกประการที่มาจาก คณะสงฆ์ผู้ใหญ่ทุกรูป โดยไม่มีข้อแม้ เป็นแต่ติงเพื่อแก้เท่านั้น.
.................................
- เพราะชาวพุทธทั่วไปทุกวันนี้ เขาตื่นตัวมาก เขากำลังจ้องมองการทำงาน การแก้ปัญหาสงฆ์อยู่ ด้วยใจที่สงสัยอยู่ตลอดเวลา.
- แต่ก็พร้อมสนับสนุนคณะสงฆ์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ มส. แต่ก็ต้องเครียด้วย.
- ศรัทธาพวกเขาจึงจะมั่นคงต่อการแก้ปัญหาของ มส. และพระศาสนาโดยรวม.
...........
ผมจะขอลำดับเหตุการณ์ และเบื้องหลังการออกหนังสือของ
เจ้าคุณ พระพรหมโมลี (สุชาติ) ที่แจ้งไปยังเจ้าคณะใหญ่หนต่าง ๆ ทั่วประเทศในวันนี้ ซึ่งผมได้รับรายงานมาเมื่อเช้ามืดวันนี้ ดังนี้ครับ.
- เหตุการณ์ที่สำคัญ
- นายกรัฐมนตรีบิ๊กตู่ ได้เรียกรัฐมนนตรีสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เข้าพบ ให้ไปแก้ปัญหาพระขึ้นป้าย.
- ต่อมา รัฐมนตรีเรียก ผอ สนง พุทธเข้าพบ ให้ไปแก้ปัญหาพระขึ้นป้าย.
- ผอ สนง พุทธ เรียกข้าราชทุกกองประชุมด่วน เพื่อแก้ปัญหาพระขึ้นป้าย.
- ประชุมครึ่งค่อนวัน ได้ข้อสรุปว่า ต้องไปขอร้องเจ้าคุณพรหมโมลี ให้ออกหนังสือแจ้งไปยังเจ้าคณะหนต่างๆ เพื่อแจ้งไปยังพระภายใต้ปกครอง.
- จริงไม่จริงก็ไม่ทราบ แต่ข่าวแว่วๆ ว่ามีสำทับท้ายว่า พระอยู่ใต้ปกครองหนใดหากไม่ทำตาม ขืนขึ้นป้ายสนับสนุน มติ มส ก็ละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ ให้เอาผิดถึงปลดจากเจ้าอาวาส.
- นี่เข้าทำนองว่า เด็กวัดรวมหัวกันเล่นอาจารย์แล้ว บางที อาจารย์ก็ตามเด็กวัดหัวหมอไม่ทัน ถูกหลอกเข้าเสียอีก.
- เพราะพวกเขาแค่คิดจะรักษาตัวรอดเป็นยอดดีเท่านั้น.
- แต่ข่าวว่า วันนี้ ท่านสุวพันธุ์ สั่งงานกับ พศ. ด้วยวาจาเกี้ยวกราด อารมณ์ฉุนเฉียว อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน.
- นี่คือเบื้องหลังการออกหนังสือเวียนของเจ้าคุณสุชาติครับ.
......................................
ผมจะหยิบมาขยายความสักนิด....เรื่องกรณีที่
- เจ้าคุณพระพรหมโมลี (สุชาติ) ที่ได้มีหนังสือเวียนส่งไปยังเจ้าคณะใหญ่ทั้ง ๔ หน (แนบหนังสือมาด้วยแล้วนี้).
- ผมอยากจะบอกว่า พลังสงฆ์ใหม่เหล่านี้นั้น ขอผู้เกี่ยวข้องอย่าได้มองข้ามเด็ดขาด เพราะเขาเป็นพลังที่บริสุทธิ์.
- ที่พวกเขาคิด และทำสิ่งนี้ขึ้นมานั้น ด้วยจิตสำนึกเพื่อปกป้องพระศาสนา และมีความเคารพศรัทธาต่อวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อสมเด็จช่วง ผู้เป็นประมุขสงฆ์เป็นที่ตั้ง.
- เพราะหากจะมีหนังสือแจ้งไปลักษณะว่า ห้ามทำเช่นนี้นั้น แล้วได้แนะนำไปด้วยหรือไม่ว่า แล้วจะให้ทำเช่นไรต่อไป.
- ในทำนองว่า ห้ามเด็ก ๆ ทำเช่นนี้ แต่ไม่ได้ยกเหตุผลว่า เพราะอะไร และไม่ได้ให้คำแนะนำไปว่า จะทำอย่างไรต่อไปนั้น ย่อมเสี่ยงในอนาคตยิ่ง.
- จึงอยากสื่อไปที่ผู้เกี่ยวข้องว่า ขอจงอย่าได้ประมาทว่า พลังสงฆ์รุ่นใหม่ที่บริสุทธิ์เหล่านี้ จะไร้ความหมายนะครับ
- เปรียบเทียบดังนิทานอีสบ "หนูกับราชสีห์" นะแหละครับ.
.............................................
คำเตือน ต่อ คุณสุวพันธุ์ ด้วยกุศลเจตนา:
ตรงนี้ อยากจะบอกกับ คุณสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ผู้ดูแล พศ. แทนรัฐบาลว่า
- หากท่านไม่มั่นใจตนว่า จะทำงานพระศาสนาด้วยจิตบริสุทธิ์จริง ๆ ก็ควรพิจารณาตนเอง ออกไปเสียจากตรงนี้เถอะครับ.
- เพราะอยู่ไปกันรังแต่จะก่ออกุศลให้ตนเอง และขัดความเจริญต่อองค์กรสงฆ์ไปเปล่าๆ.
- งานตรงนี้ มันไม่ใช่หน่วยงานที่ว่า ยึดกติกาแล้วจบ แต่มันเป็นหน่วยงานที่สูงขึ้นไปอีก คือ เรื่องคุณธรรม และศีลธรรมครับ.
- หากท่านพิจารณา เป็นอย่างอื่นนอกจากนี้ ก็เรื่องของท่านครับ.
- เพราะการบริหารงานคณะสงฆ์นั้น ฐานอารมณ์ที่มาจากใจ ในเบื้องต้นสำคัญสุด มันบ่งถึงจิตที่เป็นกุศลได้ครับ.
- การที่ท่านทำงานด้วยโทสะ แสดงอารมณ์เก็บกดมาจากรัฐบาล ที่นำมาแสดงต่อข้าราชการผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา คือ พศ. อย่างเกี้ยวกราดแบบเมื่อวานนี้นั้น
- คุณธรรมที่ท่านพยายามชูมาตลอดนั้น มันหายไปหมดจากจิตใจคน พศ. ไปแล้วนะครับ พวกเขาไม่เชื่อใจท่านมากขึ้นไปอีกหลายขั้นแล้ว.
- นี่ยังไม่รวม วจีทุจริตที่ท่าน ได้เคย กล่าว.....
- รับรองพุทธอิสระว่าไม่มีใครหนุนหลัง / รับรองว่า อิสลาม ไม่เป็นภัยต่อพระศาสนา / ตั้งข้อสงสัย ว่า วัดพระธรรมกาย เป็นภัยต่อความมั่นคงชาติหรือไม่ / ไม่มั่นใจในอำนาจน้าที่ของ มส.
- คุณสมบัติเหล่านี้ หากท่านสุวพันธุ์ คิดว่าตนเอง เหมาะที่จะนั่งตรงนี้อยู่ต่อไป ก็เชิญตามสบายครับ.
- แต่ชาวพุทธทั้งประเทศเขาทั้งพระ และคนเขาฝากมาบอกว่า..
"ท่านไม่เหมาะที่จะทำงานตรงนี้กันแล้วครับจากนี้ไป"
- ผมก็สื่อมาให้ท่านทราบเท่านั้นครับ.
..............................................
ก่อนจบ ผมอยากจะขอเน้นว่างานนี้.....
- การดำเนินการเพื่อรักษาองค์กร คือ มส. และพศ. นั้น ถือว่าถูกต้องแล้ว ทั้งยังป้องกันมิให้รัฐบาลเกิดความระแวงต่อองค์กรสงฆ์โดยรวมด้วย.
- ทั้งยังได้แสดงให้สังคมทราบว่า .....
- เบื้องหลังการที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งการขึ้นป้ายตามวัดนในครั้งนี้ ทั้ง พศ. มส. และตัวหลวงพ่อสมเด็จ ช่วง ท่านมิได้รู้เห็นไปด้วย ทั้งผู้ดำเนินการเขาก็ยึดกุศลเจตนาเป็นที่ตั้ง.
- การที่สงฆ์รุ่นใหม่ดำเนินการเรื่องนี้นั้น ก็ล้วนเกิดจากพลังศรัทธาในวัตรปฏิบัติที่บุคคลมีต่อบุคคล คือ ต่อ สมเด็จช่วง เท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร.
- ทั้งเป็นเรื่องที่ควรส่งเสริมให้สงฆ์รุ่นใหม่ได้ให้เกิดมีความสำนึกในหน้าที่สงฆ์ และเกิดความรักห่วงแหนพระพุทธศาสนาอีกด้วย.
- เฉพาะองค์หลวงพ่อสมเด็จ ช่วง นั้น ท่านก็ได้วางเฉยเรื่องนี้มาตลอดอยู่แล้ว.
- ที่สำคัญ ในเมื่อในหนังสือของเจ้าคุณสุชาติ ได้ระบุชัดเจน ในทำนองว่า .....
"ให้เห็นใจรัฐบาล เพราะจะต้องดำเนินการให้รอบครอบ และเชื่อมั่นต่อรัฐบาลว่า จะเคารพ มติ มส. และดำเนินการเรื่องนี้ ให้เป็นไปตามครรลองของกฏหมายสงฆ์นั้น"
- ตรงนี้นับว่า ผู้ออกหนังสือ คือ ทั้ง พศ. และเจ้าคุณสุชาติ นั้น เพื่อต้องการมุ่งเป้าไปที่ว่า ......
"ไว้ใจรัฐบาล และหวังจะให้ดำเนินการตามครรลองของกฏหมาย"
- ผมก็หวังแทนสงฆ์รุ่นใหม่ และชาวพุทธทั่วไปว่า ....
- วิธีดำเนินการเช่นนี้ จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องตั้งพระสังฆราชรูปใหม่ได้โดยไม่ติดขัดอะไรต่อจากนี้ไป.
- ทั้งไม่ติดขัดไปยังกลุ่มต้าน เช่น กลุ่มพุทธอิสระ ด้วย.

โชคดีมีชัยทุกท่านครับ.
เจ้าคุณเบอร์ลิน
03.03.2016.
แนบเอกสาร.


1 ความคิดเห็น:

  1. ใช่ครับมันถึงเวลาเเล้วครับ ที่ชาวพุทธทุกคนต้องช่วยกันครับ

    ตอบลบ