วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2559

ว่าจะไม่พูดถึงแล้วน้า...เรื่องฮาโลก.

ว่าจะไม่พูดถึงแล้วน้า...เรื่องฮาโลก.

----------------------------

- ในโพสต์นี้ ผมจะขอมาพูดถึงเรื่อง ที่ว่า "ว่าจะไม่พูดแล้วน้า" เพื่อเป็นการคั่นเวลาเรื่องสาระสำคัญไปก่อนนะครับ.
- โพสต์สาระครั้งหน้า ตอนนี้ผม และทีมงานกำลังช่วยกันร่าง และเรียบเรียงข้อมูลกันอยู่ครับ.
- ซึ่งไม่น่าจะเกิน ๔ - ๕ ชม. จาก นี้ ก็คงจะร่างเสร็จ แล้วก็จะส่งมาให้ผมทราบแนว ตรวจ แก้ไขเพิ่มเติม ก่อนที่จะปล่อยโพสต์ออกไป เช่นทุก ๆ ครั้ง.
- ซึ่งก็เป็นปกติที่ทุก ๆ ครั้งที่โพสต์เรื่องสำคัญ ๆ ออกไปสู่สาธารณะ.
- ทีมงานเจ้าคุณเบอร์ลิน นอกจากจะเตรียมข้อมูลกันอย่างดีแล้ว.
- ก็จะต้องร่วมกันวิเคาะห์ ติดตาม ประสาน เรื่องราวในสถานการร์ปัจจุบันของปัญหาสงฆ์ และบ้านเมืองอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทันการณ์ด้วย.
- ไม่อยากจะเรียกว่า ๒๔ ชม. แต่มันเป็นเรื่องจริง เพราะหากมีเรื่องราวสำคัญเร่งด่วน ก็จะปลุกกันได้ตลอด ๒๔ ชมเลยครับ..
---------------------
คุยคั่นเวลาโพสต์นี้ ผมขออนุญาตชวนคุยสัก ๓ เรื่อง นะครับ
เรื่องที่ ๑ ความบ้าของคนบ้า (บ้าดับเบิล).
- เรื่องที่ผมขึ้นหัวข้อว่า..
"ว่าจะไม่พูดแล้วน้า" นั่นก็คือ..
- เรื่องที่ มีคน ๒ คน (ผมไม่อยากเอ่ยชื่อแล้ว ซึ่งก็คงทราบกันดี.).
- ได้พากันไปยื่นเรื่องที่ สำนักพุทธ ฯ เพื่อให้ตรวจว่า..
- สมเด็จช่วง แห่งวัดปากน้ำ มีบัญชีเงินฝากส่วนตัว และเซ็นเช็คออกไป ๑ ล้านบาท เพื่อจ่ายค่าซื้อรถโบราณ ที่กำลังมีปัญหา.
- โดยร่วมกันกล่าวหาว่า สมเด็จช่วง มีบัญชีธนาคาร ส่วนตัวแบบนี้ และไปเซ็นเช็คออกไปเช่นนี้.
- ถือเป็นการละเมิดพระธรรมวินัย จึงขอให้ มส. ดำเนินการด้วย.
(พยายามเอาผิดกฎหมายไม่ได้ ยังพยายามจะมาเอาผิดทางธรรมวินัยอีก ขอให้พยายามเข้าไป พยายามมาก ๆ นะ อย่าหยุด -ความในใจของเจ้าคุณเบอร์ลิน).
------------------------
- เรื่องนี้ พอดี ผมมีเวลา ผมจึงได้ฟังการสัมภาษณ์สด ๆ ด้วย ดู และฟังจนจบ เพื่อที่จะฟังจากปากจริง ๆ ไม่ผ่านสื่อรายงาน และสังเกตท่าทาง กริยาไปด้วยว่า ..
"ไอ้นี่ จริง ๆ แล้วมันเป็น คนบ้า หรือ คน (สติ) ดี กันแน่".
- ซึ่งจริง ๆ ว่าไปแล้ว ก่อนที่พวกนี้จะไปยื่นเรื่องนี้นั้น ผมทราบมาก่อนบ้างแล้วครับ.
- ท่านทราบไหมครับว่า ..
- ในครั้งแรกที่ผมได้ทราบ เรื่องนี้ ผมสรุปในใจผมว่าไง....
ผมคิดในใจว่า "ท่ามันบ้าไปแล้วจริง ๆ ".
--------------------------------------
- แล้วผมก็คิดต่อไปว่า ..
- คงไม่ต้องตามเรื่องนี้แล้ว เพราะดูไร้สาระสิ้นดี.
- ซึ่งตรงนี้ ก็ปรากฎว่า ไปตรงกับทีมงานผมที่เมืองไทยสรุปกันเหมือนกัน ว่า "ไม่ต้องตามเรื่องนี้".
- ผมคิดต่อไปว่า ให้คอยดูว่า "รุ่งขึ้นวันพรุ่งนี้ จะมีสื่อไหน หรือ ใครบ้าง ที่จะมาบ้าไปกับมันครั้งนี้".
-------------------------------
- เพราะหากมาพูดเรื่องนี้ต่อจากมันอีกละก็ แสดงว่า ..
"คนนั้น น่าบ้ายิ่งกว่าคนยื่นเสียอีก"
- เพราะ โบราณว่า "อย่าถือคนบ้า อย่าว่า คนเมา".
- ถ้าไปถือไปว่า ตัวเราเองนะแหละ ที่จะยิ่งอาการหนักกว่าเขา.
-------------------------------------------------
มาดูครับ ว่าทำไมผมจึงร่าย "เรื่องบ้า ๆ" ยาวมาขนาดนี้.
บ้าเรื่องนี้ ผมขอจัดเป็นข้อ ๆ เลยนะครับ....
ข้อที่ ๑.
- เริ่มตั้งแต่ ตัวคนยื่นนี้ มีประวัติเคยยื่นเรื่องใหญ่ ๆ มาแล้ว และก็ยื่นแต่กับหน่วยงานใหญ่ ๆ ระดับประเทศเสียด้วย.
- ซึ่งบางเรื่องก็เรื่องสงฆ์ และเรื่องเล็กน้อย แต่ไปตีข่าวทำเหมือนใหญ่โต.
- บางเรื่อง สุดท้ายก็ต้องส่งมาที่ มส. หรือสำนักพุทธ ฯ และก็ถูกสรุปไปแล้ว.
- บางเรื่องก็แค่เป็นข่าวอยู่เพียงครึ่งวัน ขอแค่ยืนแถลงข่าว ๓๐ นาที เรื่องก็เงียบ ก็เอา และเป็นอยู่ประจำ.
----------------------------
ข้อที่ ๒.
- มาครั้งนี้ ทำไมจึง พากันมายื่นที่ สำนักพุทธ ฯ ละครับ ซึ่งน่าจะเป็นครั้งแรกที่มายื่นที่นี่.
- ต่อไป ผมไม่อยากพูดเดียวจะหาว่า ไปดูถูก ว่า ..
"กลุ่มนี้ อาจลดเกรด ลดเรื่อง ลงไปเรื่อย ๆ ก็ได้".
- จนในอนาคต อาจจะถึงขนาดในครั้งต่อ ๆ ไป อาจนำกันไปยื่นที่วัดแถวอ้อน้อย เรื่องขี้หมูขี้หมาก็ได้ ใครจะรู้ ".
------------------------
ข้อที่ ๓.
- คนมายื่นเป็นฆราวาส ....
- คนเป็น ฆราวาส หรือครับ ที่จะมากล่าวโจทย์เรื่อง "อาบัติ" กับพระภิกษุ.
- ถ้าใครรีไปดูการให้สัมภาษณ์สื่อ แค่เรียกชื่อ "อาบัติของพระ ยังพูดไม่ถูกเลย "ไปพิสูจน์ได้เลย".
- แถมขณะให้สัมภาษณ์สื่อ ก็ยังออกอาการงก ๆ เงิ่น ๆ เน้นว่า "ผิดพระธรรมวินัย ๆ ไม่เกี่ยวกับกฏหมาย ๆ ย้ำอยู่ตลอด".
ข้อที่ ๔.
- ก็ทำไมละครับ คนห้วหน้าที่ยื่นมีผมสีดำนั้นแหละ.
- ในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็เห็นอวดรู้แต่เรื่องสำคัญ ๆ ใหญ่ ๆ ระดับประเทศทั้งนั้น.
- ออกสื่อสารพัด แถมถูกอุปโลกให้เป็น ประธาน นั่นนี้ อาสาทำศึกจะปฏิรูปศาสนา ทำทีรอบรู้สารพัด แต่..
- แต่เรื่อง พระภิกษุสงฆ์ในประเทศไทย "มีบัญชีธนาคาร" นี้.
- ขอถามหน่อยว่า "เพิ่งรู้หรือครับ".
- ผมจะบอกให้ สมมติพระสงฆ์สามเณรในประเทศไทย ที่ท่านบวชกันประจำนี้ ไม่รวมบวชชั่วคราว.
- มีจำนวน กว่า ๓ แสนรูป อยากทราบไหมยครับว่า "มีบัญชีธนาคารกันกี่รูป".
- ก็จำนวนไม่มากหรอกครับ "มีแค่ ๓ แสนรูปเท่านั้น ที่มีบัญชีธนาคาร" ไม่ฮาได้ไง.
- หายงงหรือยัง ถ้าจะเอาผิดก็ผิดทั้ง ๓ แสน จับสึกให้หมดไปเลยเป็นไงฮากลิ้งเลยงานนี้.
- เรื่องแค่นี้ ยังไม่รู้ แล้วในเรื่องอื่น ๆ คงไม่ต้องพูดถึงหรอกมั้ง ผู้คนในสังคมไปคิดเองด้วยแล้วกัน.
-------------------
- ขอแทรกสาระความรู้พื้นฐานหน่อยว่า .....
- พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนานั้น มีศีล ๒๒๗ ข้อ
- ในสงฆ์นั้น มี ๒ ประเภท คือ..
๑. สมมติสงฆ์ ได้แก่ สงฆ์ที่กำลังมุ่งมั่น ที่จะเดินไปสู่ความเป็นพระอริยสงห์ในอนาคต (ศีล ๒๒๗ ข้อเช่นกัน).
๒. อริยสงฆ์ ได้แก่ สงฆ์ที่เป็นพระอริยะ คือ เริ่มตั้งแต่ ชั้น โสดาบันขึ้นไป จนถึง ชั้น พระอรหันต์ ทั้งมรรค และ ผล (ศีลก็มี ๒๒๗ ข้อเช่นกัน).
- แค่นี้นะครับ เดียวคนฉลาดจะมาโง่ตรงนี้อีก ผมจะบาป ฮา...
-----------------------------------
ข้อที่ ๕.
- หากให้ผมเดา เรื่องปล่อยไก่ ปล่อยโง่ ในครั้งนี้ คนเริ่มเรื่อง ไม่ใช่ใครอื่น ก็คือ คนอวดรู้ ทั้งที่ไม่มีความรู้เรื่องพระใด ๆ เลยนั้น ก็น่าจะเป็น ....
"คนหัวไม่มีผม ที่ยืนข้าง ๆ (ไม่อยากเอ่ยชื่อ)
ที่ทำหน้าเหมือนคนไม่เต็มบาท นะแหละครับ
ที่นำเพื่อนมายื่น จนออกทะเลในครั้งนี้".
- เป็นใครไปเดากันเอาเอง.
------------------------------
- ช่วงที่ผมดูคลิปสัมภาษณ์นั้น ผมก็ลุ้นในใจอยู่ว่า..
"ทำไมน้องนักข่าว จึงไม่ถามคนหัวโล้น กรณีพระเปิดบัญชีธนาคารละว่า..
"ทราบว่า ช่วงท่านไปเรียนต่างประเทศนั้น ก็ยังเป็นพระภิกษุอยู่ใช่ไหมค่ะ ตอนนั้น ท่านเอาเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ นี้ท่าน ..
"ใส่ถุงกล้วยแขกไป หรือเอาใส่ชะลอมไปค่ะ".
- ถามงี้คงวงแตก.
- จะดูซิไอ้โล้นนี้มันจะตอบว่าไง...ไม่อยากด่าว่า "ไอ้เวร" เลยจริงๆ.
------------------------------------------------------------
ขอยุติพูดเรื่องนี้
- ต่อไปนี้ ผมจะไม่ขอพูดเรื่อง ยื่นตรวจบัญชีธนาคารพระนี้ อีกแล้วนะครับผม.
- ผมรู้สึกมันเสียเวลายังไงไม่รู้ครับ แสนน่าเบื่อกับคนบ้าจริง ๆ.
- และวันนี้ ทาง พศ. ก็มีคำตอบไปแล้ว ว่า ...
"ทำไม พระจึงต้องมีบัญชีธนาคาร".
- ซึ่งผมก็กำลัง จะถาม พศ. ที่ออกมารับเรื่องนะแหละว่า...
"ก็ทำไม ตอนออกมารับเรื่องนั้น ไม่บอกคนมายื่น เขาไปตอนนั้นเสียว่า ..
"ตนเอง (พศ.) เป็นคนให้พระไปเปิดบัญชีเอง".
- ยืนทำหน้าเซ่อ ทำวนไปวนมาให้ชาวบ้านวินกันทำไมก็ไม่รู้.
-----------------------------------------------------------
เรื่องที่ ๒ กรณีกล่าวหา เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย รับของโจร.
- ขอสั้น ๆ นะครับเรื่องนี้ ว่า....
- อาทิตย์ก่อน มีเพื่อนพระ สายวัดพระธรรมกาย ท่านคงอดทนไม่ไหว แต่ท่านก็พูดอะไรมากไม่ได้นัก.
- มาวันนี้ ท่านจึงฝากผมมาถาม ไปยัง อธิบดี กรม ดีเอสไอ ผ่านสังคมไทยว่า....
"กรณีที่กล่าวหาวัดพระธรรมกาย รับเงินบริจาคจากคุณศุภชัย จากสหกรณ์คลองจั่น ฯ ว่า..
"มีความผิด ข้อหา รับของโจรนั้น".
- ชาวธรรมกายทั่วโลก พวกเขาขอถามกลับว่า....
- "ตัวคุณศุภชัย ในนามสหกรณ์นั้น ไม่ใช่บริจาคให้เฉพาะแค่ วัดพระธรรมกาย แห่งเดียวเท่านั้น.....
- ในประเทศไทย นั้น ในนามสหกรณ์ ฯ ก็ได้บริจาค เพื่อสาธารณะกุศลไปหลายแห่ง หลายหน่วยงาน
ไม่อยากเอ่ยชื่อว่ามีที่ไหนบ้าง เดียวจะหนาวกันเปล่า ๆ..
"แต่หลักฐานก็หาไม่ยาก".
- ดังนั้น ถ้าจะดำเนินการมาเอาความผิด กับ วัดพระธรรมกายละก็.
- ที่อื่น ๆ ที่รับบริจาคจากสหกรณ์ ฯ นี้ไป ก็ต้องมีความผิด และจะต้องไปดำเนินการเช่นเดียวกัน.
- หากไม่ดำเนินการในมาตรฐานเดียวกัน ในอนาคต เมื่อบ้านเมืองปกติ ระวังลูกศรมันอาจจะย้อนมากปักคอหอยตัวเองได้เช่นกัน".
- นี่คือ ข้อความของเพื่อนสหธัมมิก ของเจ้าคุณเบอร์ลิน ได้ฝากมาถาม ฝากมาสื่อ ไปยัง อธิบดี กรม ดีเอสไอ. คนปัจจุบัน
- เป็นคำถาม ที่มาด้วยความอัดอั้นใจ.
- ซึ่งท่านอธิบดี ท่านจะไม่สนใจก็ได้ครับ เพราะเรื่องคิดมันเป็นเรื่องของท่าน แต่เรื่องกฏหมายย่อมไม่ใช่เรื่องของท่านนะครับ.
------------------------------------------------
เรื่องที่ ๓ ภาพประกอบ "มีดหมอ"
- มีญาติโยมบางท่าน เห็นภาพประกอบเป็นมีด เกิดตกใจ นึกว่าเป็นสัญญาณอะไรหรือเปล่า.
- ตอบว่า ไม่มีอะไรนะครับ เป็นความชอบในเรื่องวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง ส่วนตัวของผมเอง.
- ผมมีมีดพวกนี้ สารพัด หลวงพ่อ จนเพื่อน ๆ ล้อว่า เบอร์ลิน เป็น "คลังแสงอาวุธ".
- เพราะผมสะสมชอบมีด มีหมอดู (เน้นว่าหมอดู) ชอบทักผมว่า "อดีตเป็นทหารเจ้าตาก ช่วยกู้ชาติมาก่อน".
- เอ้..สะสมแบบนี้ จะมีใครมายื่นตรวจสอบเปล่าเนี๊ยะ ...ฮา.
---------------
ความรู้เรื่องมีดหมอ สำหรับคอเครื่องรางไทย.
- เล่มนี้ (ถอดฝัก) คนรู้ดูก็ออกว่า ..
- เป็นมีดเทพศัตราวุธ ของ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์ ที่สมบูรณ์เล่มหนึ่ง.
- มีดที่สมบูรณ์ให้ดูตรง "กั่นมีด" คือ ตัวเหล็กเชื่อมกับด้ามงานั้น หลวงพ่อท่าน จะบรรจุผงวิเศษ เกสา แผ่นยันต์ของท่านลงไปด้วย.
- เหล็กโลหะที่นำมาตีมีดนั้น ในสูตรมีดหมอ ของ หลวงพ่อเดิมนั้น ไม่ใช่เหล็กธรรมดา แต่ผ่านกรรมวิธีผสมทางตำราของท่าน.
- เป็นโหละผสม เช่น ตะปูโลงศพ เหล็กอาถรรณ์ต่าง ๆ เป็นต้น.
- ดังนั้น "เนื้อมีด" หมอหลวงพ่อเดิม จึงจะต้องเกิดสนิม ไม่ใสวาวเหมือนหลวงพ่อองค์อื่น และท่านสร้างไว้หลายขนาด ช่างก็มีหลายคน.
- มีข้อห้ามว่า ...
- อย่าให้มีดหมอหลวงพ่อเดิมปาดเป็นแผลเด็ดขาด.
- เพราะจะไม่สามารถรักษาแผลนั้นได้ และจะลามไปจนกว่าจะเสียชีวิต".
- เวลาชักมีดออกจึงระวังมืออย่างยิ่ง.
---------------------
- เล่มนี้ของผม วงการเขาเรียกว่า ด้ามงาตัด ฝักไม้ แหนทองเหลือง ช่างฉิม ตีเอาไปถวายหลวงพ่อทำพิธี.
- เล่มนี้ เป็นเล่มที่ ลุงพยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคม พระเครื่อง ฯ ญาติผมเอง แกถวายผมมานานกว่า ๓๐ ปีแล้ว.
- เป็นเล่มที่ผมใส่ย่ามตลอดเวลา ครับ.
- เล่มนี้ผมพิสูจน์มาหลายครั้งแล้ว เจอเหตุการณ์บางอย่าง บางที ตัวผมเองยังกลัวเลย.
- พุทธคุณมีดหมอนั้น ขึ้นชื่อว่า เทพศัตราวุธ ก็เพราะเทวดายังต้องเกรง ภูตผีปีศาจ ไม่กล้าใกล้ พวกคุณไสย มนต์ดำ อัปมงคลพ่ายสิ้น เดินป่าชงัดนักแล.
------------------------------------
แทรก - อธิบายภาพที่แนบมา.
- แต่บรรดามีดหมอ ที่คนตระกูล คำพันธุ์ ถือว่า ล้ำค่าที่สุดของวงการ ก็คือ..
- เล่มที่ อยู่กับ คุณนุกูล เสืองามเอี่ยม หรือ เสี่ยเป็กโก้ เจ้าของค่ายมวย ป. เป๊กโก้ ปากเกร็ด ลูกพี่ เก่งกล้า เก่งกาจ ป. เป๊กโก้ มวยเงินแสน แฝดชุมพร นะแหละครับ.
- คำพันธุ์ เกี่ยวอะไร กับ เป็กโก้ เกี่ยวอะไรกับมีดหมออันดับหนึ่งวงการเล่มนี้.
--------------------------------
- คุณตาของลุงพยัพ ก็คือ เป็น คุณพ่อ ของ แม่ถวิล (แม่ลุงพยัพ พี่เยาว์ สุทัญ).
- สมัยนั้นคุณตาแกได้ไปทำบุญกับหลวงพ่อเดิม เป็นเงิน จำนวน ๕ บาท จึงได้มีดแหนทองคำ เล่มนี้มา (ภาพประกอบ).
- พอตาตายก็ตกมาอยู่กับแม่ถวิล (แม่ลุงพยัพ) พอแม่ตาย ก็ตกมาอยู่กับพี่สาวคนโตของลุงพยัพ.
- ซึ่งพอพี่สาวคนโตตาย ก็ตกมาลูกชายคนโต นั่น ก็คือ เป็กโก้ นั้นเอง.
- ก็เท่ากับว่า เป็กโก้ เป็นหลานลุงพยัพ คือเป็นลูกชายคนโต ของพี่สาวคนโตของแกนั่นเอง.
-----------------------------------
- ทุกวันนี้มีดเล่มประวัติศาตร์เล่มเดียวของวงการนี้ จึงอยู่ที่เป็กโก้ ครับ.
- พอผมเจอหน้าพวกนี้ พี่ชายลุงพยัพ ผมเรียกพี่เยาว์ น้องสุดท้อง ชอบมาเดินตามผม ชื่อ สุทัญ.
- ทั้งหมด ทั้งลูกหลาน ครึ่งร้อยคน ล้วนเรียกผม "อาจารย์ ๆ ทุกคำครับ" ผมจะคุ้นเคยยิ่งกว่าญาติกับคนตระกูลนี้.
- ท้าย ๆ โพสต์นี้ ขออนุญาตเอาใจคอเครื่องรางนะครับ.
- มันจะได้หายเซ็งกันลงมาหน่อย หลังถูกห้ามเล่นสงกรานต์กัน.
- วงการพระเครื่อง มันเซ็งหลายเรื่อง มันบ่นอุบกันเลยตอนนี้.
--------------------
จบก่อนนะครับ
สาระรอโพสต์หน้านะครับผม
โชคดีมีชัย วันสงกรานต์ล่วงหน้าทุกท่านนะครับ.
เจ้าคุณเบอร์ลิน
08.04.2016

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น